เค้กบัชเดอโนเอล Bûche de Noël

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF


เค้กบัชเดอโนเอล

เค้กบัชเดอโนเอล Bûche de Noël

เค้กบัชเดอโนเอล Bûche de Noël ถ้าเพื่อนๆกำลังหาเมนูเค้กบัชเดอโนเอลแสนอร่อย แอดครูตองซ์ว่าโป๊ะเช๊ะเลยค่ะ สูตรนี้คือสูตรของเพื่อนๆ ใช่แล้วค่ะแอดครูตองซ์ชวนทำเมนูเด็ดเค้กบัชเดอโนเอล สูตรดั้งเดิมสำหรับ Bûche de Noël เค้กบัชเดอโนเอลอันวิจิตรบรรจงนี้โดย Jacques Torres ดัดแปลงมาจาก SeriousEats สูตรแบ่งออกเป็นส่วนประกอบที่จำเป็นสำหรับการประกอบเค้ก ได้แก่ สปันจ์ บัตเตอร์ครีม เพสตรี้ครีม และเห็ดเมอแรงค์ น่ากินและหรูหราไฮโซสุดๆ

ไปเลยละค่ะ คิดดูสิเค้กสไตล์ฝรั่งเศส ซึ่งแอดครูตองซ์ลองทำมาแล้วอร่อยมากๆเลยค่ะ อยากแชร์สูตรเลย ไปลองทำกันเลยค่ะ ของอร่อยอดใจไม่ไหวแล้ว เกริ่นมานานหิวแล้ว มาทำเค้กบัชเดอโนเอลจัดไปค่ะ อร่อยเด็ดเมนูประจำตัว มาค่ะดาวน์โหลดสูตร มือขวาควงตะหลิว มือซ้ายจับกระทะ สาวเท้าก้าวเข้าครัวไปกับเมนูเค้กบัชเดอโนเอลกันเลยค่ะ


สูตรเค้กบัชเดอโนเอล
ไข่ขาวขนาดใหญ่ 3 ฟอง ที่อุณหภูมิห้อง
น้ำเปล่า 1 1/4 ถ้วย (300 มล.)
น้ำตาล 4 ช้อนโต๊ะ
ไข่แดงขนาดใหญ่ 3 ฟอง ที่อุณหภูมิห้อง
ไข่ใบใหญ่ 2 ฟองที่อุณหภูมิห้อง
น้ำตาลทรายป่น 1/2 ถ้วย (100 กรัม)
น้ำตาล 2/3 ถ้วย (135 กรัม)
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
ไข่ทั้งฟองขนาดใหญ่ 1 ฟอง ที่อุณหภูมิห้อง
ไข่แดงขนาดใหญ่ 2 ฟองที่อุณหภูมิห้อง
น้ำตาลไอซิ่ง 1 ถ้วย (125 กรัม)
2 1/2 ช้อนโต๊ะ Grand Marnier หรือเหล้าอื่น ๆ
ไข่แดงขนาดใหญ่ 2 ฟองที่อุณหภูมิห้อง
น้ำตาลน้อย 1 ถ้วย (200 กรัม)
1/3 ถ้วย (65 กรัม) บวก 2 ช้อนโต๊ะน้ำตาลทราย
1/2 ถ้วย (100 กรัม) ผงโกโก้ดัตช์โปรเซส
นมสด 1 ถ้วย (240 มล.)
น้ำเปล่า 1/3 ถ้วย (80 มล.)
นมสด 1 1/2 ช้อนชา
วนิลา 1/2 ฝัก ผ่าครึ่งตามยาว
1 1/2 ถ้วย (3 ไม้) (340 กรัม) กับเนยจืด 1 ช้อนโต๊ะ ที่อุณหภูมิห้อง หั่นเป็นลูกเต๋า
ไข่ขาวขนาดใหญ่ 2 ฟองที่อุณหภูมิห้อง
ช็อกโกแลตกึ่งหวาน 3 1/2 ออนซ์ (100 กรัม)
สารสกัดจากกาแฟบริสุทธิ์เพื่อปรุงรส
แป้งเค้ก 1/3 ถ้วย (40 กรัม)
น้ำตาลไอซิ่ง 1/4 ถ้วย (30 กรัม)

 

วิธีทำเค้กบัชเดอโนเอล
ตั้งเตาอบให้ร้อนที่ 275 องศาฟาเรนไฮต์/140°C และปิดก้นถาดอบที่มีขอบด้วยกระดาษไข
ต้มน้ำและน้ำตาลในกระทะก้นหนาโดยใช้ไฟปานกลาง-สูง อย่าลืมคนเป็นครั้งคราวจนน้ำตาลละลาย จากนั้นจึงนำกระทะออกจากเตา
ร่อนน้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะและแป้งข้าวโพดลงในชาม
ตีไข่แดงและไข่ด้วยเครื่องผสมจนเป็นสีเหลืองซีดและเพิ่มปริมาตรเป็นสามเท่า ประมาณ 7 นาที
ตั้งเตาอบให้อุ่นที่อุณหภูมิ 425 องศาฟาเรนไฮต์/220 องศาเซลเซียส ปิดถาดอบขนาด 15 1/2 x 10 1/2 นิ้ว (40×27 ซม.) ซึ่งควรลึกประมาณ 2.5 ซม. ด้วยกระดาษไข
วางเนื้อเค้กฟองน้ำบนพื้นผิวที่เรียบและสะอาด โดยให้ด้านยาวหันเข้าหาเพื่อนๆ
ตีไข่ขาวด้วยเครื่องผสมด้วยความเร็วปานกลางจนเป็นฟอง จากนั้นให้เริ่มเติมน้ำตาลทีละช้อนโต๊ะด้วยเครื่องผสมที่ทำงานอยู่ เมื่อปริมาตรเพิ่มขึ้น ให้เพิ่มความเร็วของเครื่องผสมให้สูงปานกลางแล้วตีจนตั้งยอดแข็ง ตะล่อมน้ำตาลไอซิ่งลงในแป้งขาว โดยใช้ไม้พายยาง ระวังอย่าให้พองออก และให้ขูดก้นชามด้วย
เทน้ำเชื่อมลงในชามที่ทนความร้อนแล้วรอจนเย็นสนิท จากนั้นจึงผสมเหล้าลงไป หากเก็บไว้ในตู้เย็นในภาชนะที่ปิดมิดชิด น้ำเชื่อมจะคงอยู่ตลอดไป
ตีไข่แดงในชามแยกจนเหลืองซีดและเนียน
ใส่น้ำตาลและน้ำลงในกระทะก้นหนาแล้วปรุงอาหารด้วยความร้อนสูงปานกลางถึงสูงจนเริ่มเดือด ต้มประมาณ 12 นาทีหรือน้อยกว่าหรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับว่าน้ำเชื่อมถึงอุณหภูมิ 250 ° F / 120 ° C นำออกจากเตา
ตีไข่ทั้งฟอง ไข่แดง น้ำตาล 1/3 ถ้วย (65 กรัม) และนมลงในชามด้วยเครื่องผสมที่ความเร็วปานกลางถึงสูงจนสีเหลืองซีด ประมาณ 6 นาที
ราดไซรัปให้ทั่วเค้กเพื่อให้ชุ่ม ปาดเนื้อเค้กฟองน้ำกับเพสตรี้ครีม ระวังให้ถึงขอบ แล้วม้วนเป็นโรล วางด้านตะเข็บลงบนกระดาษท่ีต้านทานนำ้มัน จากนั้นห่อด้วยฟิล์มยึดและแช่เย็น 4 ชั่วโมง
ใส่เมอแรงค์ลงในถุงที่มีปลายธรรมดา 1/4 นิ้ว (0.65 ซม.) จากนั้นจับถุงทำมุม 90° บีบก้านขนาดเล็กน้อยลงบนกระดาษที่ทาน้ำมัน จำไว้ว่าเมอแรงค์มีแนวโน้มที่จะแตกง่าย ดังนั้นให้บีบเพิ่มเผื่อไว้เผื่อจำเป็น
เพิ่มนม น้ำตาลสองช้อนโต๊ะ และเมล็ดที่ขูดของวานิลลาบีนและถั่วลงในจานรอง ตั้งไฟกลางจนเดือด แล้วปิดไฟ
ขณะผสมไข่กับเครื่องผสมด้วยความเร็วต่ำ ค่อยๆ เทน้ำเชื่อมลงในชามให้ไหลลงด้านข้างชาม ด้วยวิธีนี้ แทบไม่มีโอกาสที่น้ำเชื่อมร้อนจะหกใส่เพื่อนๆและ เผาเพื่อนๆ
ตีไข่ขาวด้วยเครื่องผสมจนเป็นฟอง จากนั้นใส่น้ำตาลสองช้อนโต๊ะ ทีละครั้ง คนอย่างต่อเนื่อง ตีจนน้ำตาลละลายและคนผิวขาวถึงจุดยอดแข็ง
วาง roulade ลงบนจานเสิร์ฟ จากนั้นหั่นชิ้นหนา 1.5 นิ้ว (4 ซม.) ออกจากปลายแต่ละด้านของ roulade แล้วพักไว้
ทำฝาในลักษณะเดียวกัน ยกเว้นท่อให้เป็นทรงกลม 1/2 นิ้ว (1.25 ซม.) ระวังอย่าให้ปลายเหลืออยู่ด้านบน
ในขณะที่คนอย่างต่อเนื่อง ให้เติมนมร้อน 1/3 ลงในไข่ที่ตีจนเนียน จากนั้นเทนมและส่วนผสมของไข่ลงในนม คนให้เข้ากัน
เมื่อเพื่อนๆเทน้ำเชื่อมทั้งหมดลงไปแล้ว ให้ตีครีมต่ออีก 3 นาที จากนั้นตีเนย แต่ตอนนี้ใช้มิกเซอร์ด้วยความเร็วปานกลางจนเข้ากัน
ใช้ไม้พายยางตะล่อมส่วนผสมของไข่ครึ่งหนึ่งลงในเมอแรงค์ก่อนเพื่อให้คลายออกเล็กน้อย จากนั้นตะล่อมส่วนที่เหลือ เพราะวิธีนี้จะลดความเสี่ยงที่จะสูญเสียปริมาตร
ปาดโรลเลดด้วยบัตเตอร์ครีมหนึ่งถ้วย จากนั้นติด 2 ชิ้นที่เพื่อนๆเคยหั่นไปก่อนหน้านี้กับด้านบนของโรลเลด ด้านละด้าน แล้วเคลือบด้วยบัตเตอร์ครีมด้วย ใช้ส้อมจิ้มบัตเตอร์ครีมเพื่อให้หน้าเหมือนเปลือกไม้
โรยโกโก้ทั้งต้นและฝาด้วยกระชอนเบา ๆ
วางจานรองบนไฟอ่อนปานกลางและปรุงอาหารในขณะที่คนตลอดเวลาจนข้นจนถึงจุดที่เคลือบด้านหลังของช้อน แต่เมื่อเดือด ให้ลดความร้อนลงและปรุงอาหารอีกประมาณสองนาที
ตอนนี้เพิ่มความเร็วเป็นสูงปานกลางและผสมประมาณ 10 นาทีจนได้ครีมที่เนียนและหนา
ร่อนแป้งลงในแป้ง แล้วตะล่อมให้เข้ากัน
แช่เย็นเป็นเวลา 15 นาทีเพื่อให้บัตเตอร์ครีมแข็งตัวขึ้นเล็กน้อย
นำเข้าอบประมาณหนึ่งชั่วโมงโดยเปิดประตูทิ้งไว้เล็กน้อยเพื่อให้ความชื้นออกจากเตาอบ ในกรณีที่เมอแรงค์เริ่มมืดแสดงว่าเพื่อนๆต้องลดอุณหภูมิลง
นำจานรองออกจากเตา แล้วเทครีมลงในชามที่สะอาด จากนั้นคลุมด้วยฟิล์มยึด ระวังว่าเพื่อนๆกดฟอยล์ลงบนพื้นผิวของครีม ในกรณีนี้ ผิวจะไม่เกิดขึ้นบนพื้นผิว พักไว้จนได้อุณหภูมิห้อง
เพิ่มสารสกัดจากกาแฟเพื่อปรุงรสแล้วผสม ระวังอย่าผสมมากเกินไป เพราะครีมจะเปลี่ยนเป็นเม็ดๆ
เทแป้งลงในถาดอบที่เตรียมไว้ ระวังให้แป้งกระจายสม่ำเสมอ จากนั้นร่อนน้ำตาลของลูกกวาดให้ทั่วแป้ง ระวังอย่าให้แป้งกระจายตัวเท่าๆ กัน
ประกอบเห็ดเมอแรงค์โดยติดฝาและก้านด้วยบัตเตอร์ครีมเล็กน้อย เก็บไว้โดยคว่ำด้านลงจนกว่าเพื่อนๆจะพร้อมตกแต่งท่อนซุง
เมื่ออบเสร็จแล้ว ทิ้งไว้ในเตาอบที่ปิดฝาไว้เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงเพื่อให้เย็นสนิท
ละลายช็อกโกแลตใน bain-marie จากนั้นตีช็อกโกแลตที่ละลายแล้วลงในครีมและปิดด้วยฟิล์มยึดเพื่อให้เกาะติดกับผิวของครีมเนื่องจากจะป้องกันไม่ให้เกิดการก่อตัวของผิวหนัง
อบประมาณห้านาทีหรือน้อยกว่านั้น ถ้าเนื้อเค้กฟองน้ำเริ่มเป็นสีน้ำตาลรอบๆ ขอบ
นำล็อกออกจากตู้เย็น แล้วลอกบล็อกช็อกโกแลตออกโดยใช้มีดปาดเค้ก เพื่อให้เศษไม้ตกลงมาบนเค้ก จากนั้นจัดเมอแรงค์เห็ดรอบเค้กเพื่อตกแต่งและจัดเสิร์ฟ
เก็บเมอแรงค์ไว้ในภาชนะที่แห้งและปิดสนิทจนกว่าเพื่อนๆจะพร้อมใช้
ควรใช้ครีมทันที แต่สามารถเก็บไว้ได้นานถึง 24 ชั่วโมงหากแช่เย็น
จากนั้นนำออกจากเตาแล้วใช้มีดปาดขอบ ปิดด้านบนของเนื้อเค้กฟองน้ำด้วยกระดาษไข พลิกกลับด้าน แล้วลอกกระดาษไขที่อยู่ด้านล่างของเนื้อเค้กฟองน้ำออก ปล่อยให้เนื้อเค้กฟองน้ำเย็นสนิท ทานให้อร่อยนะคะ



baanbakery banner

ขอขอบคุณข้อมูล – https://www.tasteatlas.com/buche-de-noel/recipe

วัตถุดิบเค้กบัชเดอโนเอล
sugar
น้ำตาล (Sugar) คือ สารประกอบคาร์โบไฮเดรตประเภทโมโนแซ็กคาไรด์ (monosaccharide) และไดแซ็กคาไรด์ (disaccharide) ซึ่งมีรสหวาน โดยทั่วไปจะได้มากจากอ้อย มะพร้าว แต่โดยทั่วไปแล้วจะเรียกอาหารที่มีรสหวานว่าน้ำตาลแทบทั้งสิ้น เช่น ทำมาจากตาลจะเรียกว่าตาลโตนด ทำมาจากมะพร้าวจะเรียกว่าน้ำตาลมะพร้าว ทำมาจากงวงจากจะเรียกว่าน้ำตาลจาก ทำมาจากงบจะเรียกว่าน้ำตาลงบ ทำมาจากอ้อยแต่ยังไม่ได้ทำเป็นน้ำตาลทรายจะเรียกว่าน้ำตาลทรายดิบ ถ้านำมาทำเป็นเม็ดจะเรียกว่าน้ำตาลทราย หรือถ้านำมาทำเป็นก้อนแข็งคล้ายกรวดจะเรียกว่าน้ำตาลกรวด ฯลฯ
eggs
ไข่ (Eggs) เป็นหนึ่งในอาหารโปรตีนสูง ใน 1 ฟองจะมีโปรตีน 6 กรัม จึงถือเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ซึ่งผู้ที่ต้องการมีกล้ามเนื้อทั้งหลายต่างเลือกรับประทาน เพราะเชื่อว่าจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ดี เนื่องจากโปรตีนมีส่วนช่วยในการเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย เนื่องจากในไข่มีสารโคลีน (Choline) มากถึง 20% เป็นปริมาณที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน ที่เมื่อไปรวมกับกรดไขมันฟอสโฟลิพิด (Phospholipid) จะเกิดเป็นสารเลซิทิน (Lecithin) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของสมอง จึงเชื่อกันว่าไข่อาจช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมอง และช่วยให้ระบบประสาทแข็งแรงได้
corn
ข้าวโพด (Corn) ธัญพืชรสหวานอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบี แร่ธาตุ เส้นใยอาหาร และเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ เชื่อกันว่าการรับประทานข้าวโพดมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ เช่น ช่วยบำรุงสายตา ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น รวมถึงป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจได้ เป็นต้น
milk
นม หรือ น้ำนม (Milk) คือ ของเหลวสีขาวที่มีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็กหรือสัตว์เกิดใหม่ ที่ผลิตออกมาจากเต้านมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อาทิเช่น มนุษย์ วัว แพะ แกะ ควาย ม้า ลา อูฐ จามรี เรีนเดียร์ ลามา แมวน้ำ และยังรวมไปถึงเครื่องดื่มที่ใช้แทนนมด้วย เช่น นมถั่วเหลือง น้ำนมข้าว นมข้าวโพด นมแอลมอนด์เป็นต้น
vanilla
วานิลลา (Vanilla) เป็นกลิ่นที่ได้จากฝักของกล้วยไม้สกุล Vanilla ต้นกำเนิดจากเม็กซิโก ชื่อวานิลลามาจากคำในภาษาสเปนว่า “ไบย์นียา” (vainilla) ซึ่งแปลว่า ฝักเล็ก ๆ วานิลลามักถูกนำมาใช้แต่งกลิ่นในการทำอาหารประเภทของหวานและไอศกรีม
salt
เกลือ (Salt) หรือเกลือโซเดียมนั้นมีแร่ธาตุหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมก็อาจส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย ดังนี้ ป้องกันภาวะความดันโลหิตต่ำ,ป้องกันภาวะขาดน้ำ และป้องกันการขาดไอโอดีน แต่ต้องรับประทานในขนาดที่เหมาะสมต่อวันมิเช่นนั้นจะเดิดโทษต่อร่างกาย มากกว่าได้ประโยชน์
butter
เนย (Butter) เป็นไขมันสัตว์ที่ถูกนำไปผ่านกระบวนการแยกออกมาจากน้ำนมหรือครีม ส่วนใหญ่จะใช้น้ำนมจากสัตว์ เช่น วัว ควาย แพะ หรือแกะ กระบวนการผลิตเนย เริ่มจากการนำน้ำนมไปเข้าเครื่องจักรเพื่อปั่นหรือเหวี่ยงด้วยความเร็วสูง เมื่อเหวี่ยงจนได้ที่จะได้วัตถุดิบออกมา 2 ชนิด คือ บัตเตอร์มิลค์ เป็นส่วนของน้ำสีขาวขุ่น และเนย เป็นส่วนของก้อนไขมันสีเหลืองๆ ซึ่งก็คือเนยแท้ หรือที่เรียกกันติดปากว่า ‘เนยสด’ นั่นเอง
chocolate
ช็อกโกแลต (Chocolate) คือผลิตผลที่ได้มาจากเมล็ดของต้นโกโก้เขตร้อน ช็อกโกแลตเป็นส่วนผสมของของหวานหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ไอศครีม ลูกอม คุกกี้ เค้ก หรือว่าพาย ช็อกโกแลตถือได้ว่าเป็นรสชาติที่ถูกใจคนมากที่สุดในโลก

 

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF