เค้กดันดี Dundee Cake
เค้กดันดี Dundee Cake ไม่มีอะไรที่แสนสุขใจเกินไปกว่าการได้ทำเมนูสุดพิเศษ ที่ทำด้วยฝีมือเราเอง แอดชูครีมมาชวนทำ เค้กดันดีเค้กสไตล์สก๊อตแลนด์ ซึ่งแอดชูครีมลองทำมาแล้วอร่อยมากๆเลยค่ะ อยากแชร์สูตรเลย สูตรเค้กดันดี สูตรนี้ดัดแปลงมาจาก Larousse Gastronomique เค้กนุ่มชุ่มฉ่ำที่ทุกอานุภาคของเค้ก อัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์ของอัลมอน อร่อยมากและมีประโยชน์ลองคิดดู เมนูนี้อาจเป็นเมนูซิกเนเจอร์ ของเพื่อนๆก็ได้ โอ๊ย..อยากกินแล้วน้ำลายไหล มาทำเค้กดันดีกันเลยค่ะ อร่อยเด็ดทำให้คนชม มาค่ะดาวน์โหลดสูตร มือขวาควงตะหลิว มือซ้ายจับกระทะ สาวเท้าก้าวเข้าครัวไปกับเมนูเค้กดันดีกันเลยค่ะ
สูตรเค้กดันดี
เนย 225 กรัม
น้ำตาลทราย 225 กรัม
ผิวส้มขูด 1 ลูก
แป้งอเนกประสงค์ 225 กรัม
แป้งเอนกประสงค์ 100 กรัม
ไข่ 4 ฟอง
น้ำมันอัลมอนด์ขม 1-2 ช้อนชา
ลูกเกด 225 กรัม
sultanas 225 กรัม
ส้มหวานผสมมะนาวและเปลือกส้มสับ 100 กรัม
อัลมอนด์ลวกสับละเอียด 100 กรัม
อัลมอนด์ป่น 100 กรัม
อัลมอนด์ลวกทั้งเปลือกสำหรับตกแต่ง
วิธีทำเค้กดันดี
ครีมเนย น้ำตาล และความเอร็ดอร่อยของส้มหนึ่งผล นำส่วนผสมรวมกันตีจนเข้ากันดี โดยการร่อนแป้งในชามแยก ตีไข่ด้วยน้ำมันอัลมอนด์ แล้วใส่เนยลงไป ให้ใส่แป้งสองสามช้อนโต๊ะลงในเนยและไข่
ผสมผลไม้แห้ง เปลือกผลไม้เชื่อม และอัลมอนด์กับแป้งร่อนหนึ่งช้อน ต่อไป ตะล่อมแป้งที่เหลือลงในแป้ง แล้วใส่ผลไม้แห้ง เปลือกผลไม้เชื่อม และอัลมอนด์ลงไปด้วย
เทส่วนผสมลงในพิมพ์เค้กกลมลึกที่มีเส้นและทาน้ำมัน (เส้นผ่านศูนย์กลาง 20 ซม.) แล้วเกลี่ยให้ทั่ว ตกแต่งด้านบนด้วยอัลมอนด์ลวกทั้งหมด ขั้นแรก ทำเป็นวงกลมรอบๆ ขอบ จากนั้นใช้ตรงกลาง ตรวจดูให้แน่ใจว่าเพื่อนๆกดอัลมอนด์แต่ละเม็ดลงในส่วนผสมเพื่อให้มันเกาะติดกัน เนื่องจากเค้กจะลอยขึ้นระหว่างการอบ เพื่อนๆจึงสามารถวางอัลมอนด์ชิดกันได้
เมื่อประกอบแล้ว อบในเตาอบที่อุ่นไว้ที่ 160 °C เป็นเวลาสี่ชั่วโมง ถ้าชอบ เพื่อป้องกันไม่ให้ถั่วไหม้ ให้ปิดเค้กด้วยกระดาษฟอยล์หลวมๆ เพื่อตรวจสอบความสุก ให้เสียบไม้เสียบตรงกลางเค้ก ถ้ามันออกมาสะอาด แสดงว่าเค้กสุกแล้ว แต่ถ้าเสียบไม้แล้วยังมีเศษขนมปังอยู่บ้าง เพื่อนๆควรอบเค้กต่ออีก 15 นาที
เมื่อเสร็จแล้ว ทิ้งให้เย็นในกระทะเป็นเวลา 30 นาที แล้วย้ายไปวางบนตะแกรงให้เย็นสนิท ห่อเค้กที่เย็นลงในกระดาษรองอบ แล้วเก็บไว้ในภาชนะที่มีอากาศถ่ายเทเป็นเวลา 2-4 สัปดาห์เพื่อให้มีเวลาสุก ทานให้อร่อยนะคะ
VIDEO
ขอขอบคุณข้อมูล – https://www.tasteatlas.com/dundee-cake/recipe
ประวัติเค้กดันดี
เค้ก Dundee พัฒนาขึ้นครั้งแรกในช่วงปลายทศวรรษ 1700 โดยเชื่อมโยงกับเมือง Dundee and Kiellers บริษัทผลิตแยมผิวส้มอย่างแยกไม่ออก ในช่วงที่ไม่ได้เก็บเกี่ยว บริษัทจะใช้เปลือกที่เหลือหลังจากทำแยมผิวส้มเพื่อทำเปลือกหวาน อย่างไรก็ตาม จนกระทั่งในช่วงกลางถึงปลายทศวรรษ 1800 คีลเลอร์สได้มีแนวคิดที่จะใช้เปลือกหวานนั้นเพื่อเริ่มผลิตและจำหน่ายเค้กผลไม้ที่ผลิตในปริมาณมาก ท่าเรือของเมืองเป็นสถานที่ที่มีกิจกรรมการค้าสูงซึ่งผู้ส่งออกจากทั่วยุโรปจะมาขายสินค้าของตน Kiellers ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพ่อค้าชาวสเปนใช้สุลต่านสเปน ส้มเซบียา อัลมอนด์สเปนในสูตรดั้งเดิม และการออกแบบชั้นยอดที่ทำจากอัลมอนด์ลวกเป็นวิธีที่ชาญฉลาดในการทำให้เค้กของพวกเขาเป็นที่รู้จักในทันที แม้ว่าเค้ก Dundee จะถูกโฆษณาว่าเป็นของขวัญที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกโอกาส แต่ในช่วงเปลี่ยนผ่านของศตวรรษที่ 20 เมื่อร้านน้ำชาและการชงชายามบ่ายกลายเป็นแฟชั่นในสกอตแลนด์ เค้ก Dundee ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีก เค้กผลไม้แบบดั้งเดิมนี้เป็นที่ชื่นชอบของควีนอลิซาเบธที่ 2 และเป็นของหวานที่วินสตัน เชอร์ชิลล์เลือก ทุกวันนี้ สูตรอาหารส่วนใหญ่มีส่วนผสมเพิ่มเติม เช่น ผลไม้แห้งอื่นๆ เชอร์รี่ และอัลมอนด์ป่น ซึ่งในกรณีนี้ไม่สามารถระบุว่าเป็นเค้กดันดีได้
วัตถุดิบเค้กดันดี
butter
เนย (Butter) เป็นไขมันสัตว์ที่ถูกนำไปผ่านกระบวนการแยกออกมาจากน้ำนมหรือครีม ส่วนใหญ่จะใช้น้ำนมจากสัตว์ เช่น วัว ควาย แพะ หรือแกะ กระบวนการผลิตเนย เริ่มจากการนำน้ำนมไปเข้าเครื่องจักรเพื่อปั่นหรือเหวี่ยงด้วยความเร็วสูง เมื่อเหวี่ยงจนได้ที่จะได้วัตถุดิบออกมา 2 ชนิด คือ บัตเตอร์มิลค์ เป็นส่วนของน้ำสีขาวขุ่น และเนย เป็นส่วนของก้อนไขมันสีเหลืองๆ ซึ่งก็คือเนยแท้ หรือที่เรียกกันติดปากว่า ‘เนยสด’ นั่นเอง
sugar
น้ำตาล (Sugar) คือ สารประกอบคาร์โบไฮเดรตประเภทโมโนแซ็กคาไรด์ (monosaccharide) และไดแซ็กคาไรด์ (disaccharide) ซึ่งมีรสหวาน โดยทั่วไปจะได้มากจากอ้อย มะพร้าว แต่โดยทั่วไปแล้วจะเรียกอาหารที่มีรสหวานว่าน้ำตาลแทบทั้งสิ้น เช่น ทำมาจากตาลจะเรียกว่าตาลโตนด ทำมาจากมะพร้าวจะเรียกว่าน้ำตาลมะพร้าว ทำมาจากงวงจากจะเรียกว่าน้ำตาลจาก ทำมาจากงบจะเรียกว่าน้ำตาลงบ ทำมาจากอ้อยแต่ยังไม่ได้ทำเป็นน้ำตาลทรายจะเรียกว่าน้ำตาลทรายดิบ ถ้านำมาทำเป็นเม็ดจะเรียกว่าน้ำตาลทราย หรือถ้านำมาทำเป็นก้อนแข็งคล้ายกรวดจะเรียกว่าน้ำตาลกรวด ฯลฯ
eggs
ไข่ (Eggs) เป็นหนึ่งในอาหารโปรตีนสูง ใน 1 ฟองจะมีโปรตีน 6 กรัม จึงถือเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ซึ่งผู้ที่ต้องการมีกล้ามเนื้อทั้งหลายต่างเลือกรับประทาน เพราะเชื่อว่าจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ดี เนื่องจากโปรตีนมีส่วนช่วยในการเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย เนื่องจากในไข่มีสารโคลีน (Choline) มากถึง 20% เป็นปริมาณที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน ที่เมื่อไปรวมกับกรดไขมันฟอสโฟลิพิด (Phospholipid) จะเกิดเป็นสารเลซิทิน (Lecithin) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของสมอง จึงเชื่อกันว่าไข่อาจช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมอง และช่วยให้ระบบประสาทแข็งแรงได้
almond
ถั่วอัลมอนด์ เป็นถั่วที่มีคุณค่าทางสารอาหารต่อร่างกายสูงกว่าถั่วชนิดอื่น ๆ มาก และยังติด 1 ใน 10 ของสุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพอีกด้วย ถ้าคุณได้เห็นคุณค่าทางโภชนาการของถั่วชนิดนี้เทียบกับผักและผลไม้ชนิดอื่น ๆ แล้วคุณจะต้องตกใจ เพราะมีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญที่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งนั้น และแถมยังมีปริมาณที่มากเสียด้วย
raisins
ลูกเกด (Raisins) เป็นของแปรรูปจากองุ่น โดยการนำเอาองุ่นสดมาตากจนแห้งเป็นสีน้ำตาลจนเกือบเป็นสีดำ หรือในปัจจุบันจะมีการนำไปอบแห้ง แล้วสีของลูกเกดจะเป็นสีทอง เต็มไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ ทั้งสารแอนตี้ออกซิแดนซ์ ที่ยับยั้งการเกิดโรคความเสื่อมทั้งหลาย มีแร่ธาตุและวิตามินที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ธาตุเหล็ก, แคลเซียม, โปแตสเซียม, แมกนีเซียม, ไนอาซิน, โฟลาซิน, วิตามิน A และวิตามิน C
lemon
เลมอน (lemon) เป็นผลไม้ที่จัดอยู่ในตระกูลส้ม มีลักษณะเป็นไม้พุ่ม ปลายยอดมีหนามแหลม ลักษณะของใบเป็นใบเดี่ยว เมื่อนำมาขยี้จะมีกลิ่นหอมแรง ส่วนลักษณะของดอกเลมอน ดอกมีกลิ่นหอม และมีสีขาว ส่วนลักษณะของผลเลมอน เป็นรูปกลมรี ที่ปลายผลจะมีติ่งแหลม ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อสุกจะเป็นสีเหลือง ในผลมีเมล็ดหลายเมล็ด เนื้อผลฉ่ำน้ำ และมีรสเปรี้ยว
Post Views:
303