สมอร์คุ้กกี้ช๊อกโกแลตชิพ Chocolate Chip S MORES Cookie
สมอร์คุ้กกี้ช๊อกโกแลตชิพ Chocolate Chip S MORES Cookie ไม่มีอะไรที่ทำให้เราฟินได้มากไปกว่าการได้กินของอร่อย ที่เราทำเองได้ที่บ้าน แอดซูเฟล่ขอนำเสนอ สมอร์คุ้กกี้ช๊อกโกแลตชิพสไตล์อเมริกัน ซึ่งแอดซูเฟล่ลองทำมาแล้วอร่อยมากๆเลยค่ะ อยากแชร์สูตรเลย คุ้กกี้บาร์แสนอร่อย มีหลากหลายอารมณ์ทั้งมาซเมลโลนุ่มๆ ตัดรสกับช็อกโกแลตชั้นดีหวานหอม เรียกได้ว่าเพอร์เฟคแมตซ์กับเครื่องดื่มแก้วโปรดเลยค่ะนึกดูสิที่รัก แค่นึกถึงเมนูนี้ น้ำลายก็ไหลแล้ว แค่คิดก็อยากกินแล้ว มาทำสมอร์คุ้กกี้ช๊อกโกแลตชิพจัดไปค่ะ อร่อยเด็ดเมนูระดับมิชิลินสตาร์ มาค่ะดาวน์โหลดสูตร มือขวาควงตะหลิว มือซ้ายจับกระทะ สาวเท้าก้าวเข้าครัวไปกับเมนูสมอร์คุ้กกี้ช๊อกโกแลตชิพกันเลยค่ะ
สูตรสมอร์คุ้กกี้ช๊อกโกแลตชิพ
แป้งเอนกประสงค์ 1 1/4 ถ้วย
เนยเค็ม 1 แท่งหรือ 4 ออนซ์
น้ำตาลทรายแดง 3/4
น้ำตาลทรายขาวหรือน้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
ไข่ 1 ฟอง + ไข่แดง 1 ฟอง
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
วานิลลาสกัด 1 ช้อนชา
มาร์ชเมลโลว์มินิ 1/2 ถ้วย
ช็อคโกแลตชิพ 1/2 ถ้วย
เกรแฮมแครกเกอร์บด 3 ชิ้น
วิธีทำสมอร์คุ้กกี้ช๊อกโกแลตชิพ
ในชามใบใหญ่ ผสมน้ำตาลทรายแดง น้ำตาลทรายขาว และเนยละลาย ผสมให้เข้ากันแล้วใส่ไข่และไข่แดง
ผสมให้เข้ากันจนทุกอย่างเนียน เงา และเหมือนลาวา เติมเกลือ เบกกิ้งโซดา กลิ่นวานิลลาและผสมอีกครั้ง ใส่แป้ง มาร์ชเมลโลว์ขนาดเล็ก ช็อกโกแลตชิป และแครกเกอร์เกรแฮมบดแล้วผสมให้เข้ากัน
ตักใส่ไปยังถาดอบขนาด 8×8 ที่มีเส้นและอบที่ 350 องศาเป็นเวลา 6-7 นาทีจนเกือบสุก แต่ด้านบนเริ่มแข็ง ดึงออกจากเตาอบและเพิ่มมาร์ชเมลโลว์อีกชั้นหนึ่ง ปกติฉันจะชอบช็อกโกแลตชิปหนึ่งกำมือด้านบน
ใส่กลับเข้าไปในเตาอบและอบต่ออีก 5-6 นาทีหรือจนกว่ามาร์ชเมลโลว์ด้านบนจะเป็นสีน้ำตาลทองและพอง
นำออกจากเตาอบและปล่อยให้เย็นประมาณ 10-15 นาที หากคุณต้องการให้เป็นแท่งแน่นขึ้น ปล่อยให้เย็นประมาณหนึ่งชั่วโมง พร้อมเสิร์ฟความอร่อย ทานให้อร่อยนะคะ
VIDEO
ขอขอบคุณข้อมูล – คุณ Honeysuckle จาก https://www.youtube.com/watch?v=YojLZ2LviDQ
กดติดตามคุณHoneysuckle ได้ที่ปุ่มนี้เลยจ้า เมนูเด็ดรอเพื่อนๆอยู่
วัตถุดิบสมอร์คุ้กกี้ช๊อกโกแลตชิพ
salt
เกลือ (Salt) หรือเกลือโซเดียมนั้นมีแร่ธาตุหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมก็อาจส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย ดังนี้ ป้องกันภาวะความดันโลหิตต่ำ,ป้องกันภาวะขาดน้ำ และป้องกันการขาดไอโอดีน แต่ต้องรับประทานในขนาดที่เหมาะสมต่อวันมิเช่นนั้นจะเดิดโทษต่อร่างกาย มากกว่าได้ประโยชน์
butter
เนย (Butter) เป็นไขมันสัตว์ที่ถูกนำไปผ่านกระบวนการแยกออกมาจากน้ำนมหรือครีม ส่วนใหญ่จะใช้น้ำนมจากสัตว์ เช่น วัว ควาย แพะ หรือแกะ กระบวนการผลิตเนย เริ่มจากการนำน้ำนมไปเข้าเครื่องจักรเพื่อปั่นหรือเหวี่ยงด้วยความเร็วสูง เมื่อเหวี่ยงจนได้ที่จะได้วัตถุดิบออกมา 2 ชนิด คือ บัตเตอร์มิลค์ เป็นส่วนของน้ำสีขาวขุ่น และเนย เป็นส่วนของก้อนไขมันสีเหลืองๆ ซึ่งก็คือเนยแท้ หรือที่เรียกกันติดปากว่า ‘เนยสด’ นั่นเอง
sugar
น้ำตาล (Sugar) คือ สารประกอบคาร์โบไฮเดรตประเภทโมโนแซ็กคาไรด์ (monosaccharide) และไดแซ็กคาไรด์ (disaccharide) ซึ่งมีรสหวาน โดยทั่วไปจะได้มากจากอ้อย มะพร้าว แต่โดยทั่วไปแล้วจะเรียกอาหารที่มีรสหวานว่าน้ำตาลแทบทั้งสิ้น เช่น ทำมาจากตาลจะเรียกว่าตาลโตนด ทำมาจากมะพร้าวจะเรียกว่าน้ำตาลมะพร้าว ทำมาจากงวงจากจะเรียกว่าน้ำตาลจาก ทำมาจากงบจะเรียกว่าน้ำตาลงบ ทำมาจากอ้อยแต่ยังไม่ได้ทำเป็นน้ำตาลทรายจะเรียกว่าน้ำตาลทรายดิบ ถ้านำมาทำเป็นเม็ดจะเรียกว่าน้ำตาลทราย หรือถ้านำมาทำเป็นก้อนแข็งคล้ายกรวดจะเรียกว่าน้ำตาลกรวด ฯลฯ
baking soda
เบคกิ้งโซดา (Baking soda) เป็นผงสีขาว มีรสเค็มเล็กน้อย และมีฤทธิ์เป็นด่างอ่อนๆ บางก็เรียกว่าโซดาทำขนม เบคกิ้งโซดาไม่ใช่ผงฟู แต่เบคกิ้งโซดาเป็นส่วนประกอบอย่างหนึ่งที่มีอยู่ในผงฟู หลายคนอาจสับสนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นตัวเดียวกัน เบคกิ้งโซดาสำหรับใช้ทำขนมอบต่างๆ เพราะเมื่อเบคกิ้งโซดาทำปฏิกริยากับน้ำหรือกรดอ่อนๆ ที่มาจากส่วนผสมอื่นๆของอาหาร เช่น แป้งทำขนม, ช็อคโกแลต, น้ำตาล ซึ่งมีความเป็นกรดก็จะทำปฏิกริยากันกัน ให้ฟองแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นมา ทำให้เนื้อขนมขยายขนาดหรือฟูขึ้นนั่นเอง
vanilla
วานิลลา (Vanilla) เป็นกลิ่นที่ได้จากฝักของกล้วยไม้สกุล Vanilla ต้นกำเนิดจากเม็กซิโก ชื่อวานิลลามาจากคำในภาษาสเปนว่า “ไบย์นียา” (vainilla) ซึ่งแปลว่า ฝักเล็ก ๆ วานิลลามักถูกนำมาใช้แต่งกลิ่นในการทำอาหารประเภทของหวานและไอศกรีม
chocolate
ช็อกโกแลต (Chocolate) คือผลิตผลที่ได้มาจากเมล็ดของต้นโกโก้เขตร้อน ช็อกโกแลตเป็นส่วนผสมของของหวานหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ไอศครีม ลูกอม คุกกี้ เค้ก หรือว่าพาย ช็อกโกแลตถือได้ว่าเป็นรสชาติที่ถูกใจคนมากที่สุดในโลก
Post Views:
673