ซากุระแมดเดอลีน Cherry Blossom Madeleines

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF


ซากุระแมดเดอลีน

ซากุระแมดเดอลีน

ซากุระแมดเดอลีน ถ้าคุณกำลังหาเมนูซากุระแมดเดอลีนแสนอร่อย แอดครูตองซ์ขอบอกว่า …บิงโก… มาถูกที่แล้วค่ะ ถูกต้องนะค้าบแอดครูตองซ์มาชวนทำซากุระแมดเดอลีน เฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิด้วย Cherry Blossom Madeleines คุกกี้ฝรั่งเศสที่น่ารื่นรมย์เหล่านี้มีรสเนยหวานและเค็มเล็กน้อยพร้อมกลิ่นหอมของดอกซากุระ เชิญเพื่อนของคุณมาทานมาเดอลีนที่ละเอียดอ่อนกับชาเขียว นึกดูสิที่รักขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งแอดครูตองซ์ลองทำมาแล้วอร่อยมากๆเลยค่ะ อยากแชร์สูตรเลย จะมีอะไรดีไปกว่านี้ บรรยายความน่ากินมามากโข มาทำซากุระแมดเดอลีนกันค่ะ อร่อยเด็ดทำให้คนชม มาค่ะดาวน์โหลดสูตร มือขวาควงตะหลิว มือซ้ายจับกระทะ สาวเท้าก้าวเข้าครัวไปกับเมนูซากุระแมดเดอลีนกันเลยค่ะ


สูตรซากุระแมดเดอลีน
ซากุระดองเกลือ 20 ดอก (ประมาณ 20 กรัม)
เนยจืด 4 ช้อนโต๊ะ (2 ออนซ์, 1/2 ไม้)
ไข่ใบใหญ่ 1 ฟอง (50 กรัมไม่รวมเปลือก) (ที่อุณหภูมิห้อง)
1/3น้ำตาลถ้วย
แป้งเอนกประสงค์ 1/2 ถ้วยตวง (แป้งสาลีอเนกประสงค์)
ผงฟู 1/2 ช้อนชา
นม 1/2 ช้อนโต๊ะ (นมผง ที่อุณหภูมิห้อง)
เนยจืด 1 ช้อนโต๊ะ
แป้งเอนกประสงค์ 1/2 ช้อนโต๊ะ (แป้งสาลีอเนกประสงค์)

 

วิธีทำซากุระแมดเดอลีน
 ชั่งตวงวัดส่วนผสมทั้งหมด เพื่อความรวดเร็วขณะปรุง และความแน่นยำของสูตรทำให้รสชาติไม่คลาดเคลื่อนค่ะ โปรดทราบว่าจะใช้เวลาแช่ 30 นาทีและแช่เย็น 1 ชั่วโมง เพื่อนๆจะต้องใช้กระทะเมดไลน์
ใส่ซากุระดองเกลือลงในชามขนาดเล็กแล้วเติมน้ำ ทิ้งน้ำและเกลือที่สะสมอยู่ที่ด้านล่างของชาม
เติมน้ำอีกครั้งแล้วแช่ไว้ 30 นาทีเพื่อขจัดความเค็มออกจากดอกไม้
หยิบดอกไม้แล้วปล่อยให้แห้งบนกระดาษชำระ วางดอกไม้ที่ดูดีที่สุด 12 ดอกไว้ข้างๆ เก็บกองดอกไม้ที่เหลือและชิ้นส่วนที่แตกแยกไว้
สับดอกไม้ที่เหลือและชิ้นหักอย่างประณีต (ฉันมีดอกไม้สับประมาณ 1 ช้อนชา)
ละลายเนยจืดในไมโครเวฟ (หรือในกระทะขนาดเล็กโดยใช้ไฟอ่อนปานกลาง)
ในชามขนาดกลาง ผสมไข่ 1 ฟองกับน้ำตาล ⅓ ถ้วย แล้วตีให้เข้ากันจนเป็นฟอง
ใช้ตะแกรงตาข่ายละเอียด ร่อนแป้งอเนกประสงค์ ½ ถ้วยตวง และผงฟู ½ ช้อนชา ลงบนส่วนผสมของไข่ ใช้ไม้พายซิลิโคนตะล่อมจนเข้ากัน
เพิ่มนม½ช้อนโต๊ะและผสมกับแป้ง
ค่อยๆ เติมเนยละลายที่เย็นแล้วครึ่งหนึ่ง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ผสมเนยและส่วนผสมให้เข้ากันดีก่อนที่จะใส่เนยที่เหลือ ผสมจนเข้ากันและอย่าผสมมากเกินไป
ใส่ดอกไม้ที่สับแล้วตะล่อมเบาๆ
ปิดชามด้วยพลาสติกแรปแล้วแช่เย็น พักแป้งอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงหรือข้ามคืน หากคุณไม่ได้วางแผนที่จะทำในเร็วๆ นี้ ให้ใส่แป้งในถุงสุญญากาศ และเก็บไว้ในช่องแช่แข็งได้นานถึง 2 สัปดาห์
จัดชั้นวางในเตาอบและเปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 375 องศาฟาเรนไฮต์ (190 องศาเซลเซียส) สำหรับเตาอบพา ให้ลดอุณหภูมิในการปรุงอาหารลง 25ºF (15ºC) ละลายเนย 1 ช้อนโต๊ะในไมโครเวฟ ใช้แปรงทาเนยทาเนยลงในพิมพ์ของถาดมาดเลนรูปเปลือกหอย 12 ชิ้น จากนั้นใช้กระชอนตาข่ายละเอียด โรยแป้งอเนกประสงค์ ½ ช้อนโต๊ะ ให้ทั่วแม่พิมพ์
ใส่ดอกไม้แต่ละดอกลงในแม่พิมพ์อย่างระมัดระวัง
นำแป้งออกจากตู้เย็นแล้วตักแป้งด้วยช้อนตวง 1 ช้อนโต๊ะ โอนไปยังแม่พิมพ์แต่ละอันด้วยไม้พายซิลิโคนขนาดเล็ก ไม่จำเป็นต้องเกลี่ยแป้งในแม่พิมพ์ให้เรียบ เพราะจะละลายในเตาอบ
นำเข้าอบที่ 375 องศาฟาเรนไฮต์ (190 องศาเซลเซียส) เป็นเวลา 11-13 นาที หรือจนกว่าขอบของมาเดอลีนจะดูเรียบร้อยและยอดจะเด้งกลับเมื่อสัมผัส นำกระทะออกจากเตาอบและปล่อยให้เย็นเป็นเวลา 3 นาที
ใช้ส้อมค่อยๆ ปล่อยแมเดลีนออกจากแม่พิมพ์แล้วโอนไปยังชั้นวางทำความเย็น มาเดอเลนพร้อมเสิร์ฟเมื่ออุ่นเล็กน้อยหรือที่อุณหภูมิห้อง โรยหน้าด้วยน้ำตาลไอซิ่งหากต้องการ (ข้ามไปหากคุณกำลังจัดเก็บ/แช่แข็ง)
เก็บมาเดอลีนที่เย็นสนิทในภาชนะที่มีอากาศถ่ายเทได้สองสามวัน (ควรรับประทานอย่างดีที่สุดภายใน 24 ชั่วโมง) หากคุณกำลังแช่แข็งมาเดอเลน ให้ห่อด้วยพลาสติกแรปแยกกันและรับประทานภายใน 2 เดือน ละลายน้ำแข็งแมดเดอลีนที่อุณหภูมิห้อง ทานให้อร่อยนะคะ



baanbakery banner

ขอขอบคุณข้อมูล – https://www.justonecookbook.com/cherry-blossom-madeleines/

ข้อมูลโภชนาการซากุระแมดเดอลีน
ซากุระแมดเดอลีน 1 หน่วย
พลังงาน 78 กิโลแคลอรี่
พลังงานจากไขมัน 36 กิโลแคลอรี่
สารอาหาร
ไขมัน 4 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 9 กรัม
โปรตีน 1 กรัม
โซเดียม 25 มิลลิกรัม

 

ข้อมูลโภชนาการ
ซากุระแมดเดอลีน
หน่วยบริโภค 1 หน่วย
Serving Per Container
Source: www.baanbakery.com
จำนวนต่อหนึ่งหน่วยบริโภค
พลังงานทั้งหมด 78 kCal
% แนะนำต่อวัน*
ไขมันทั้งหมด 4 ก.
ไขมันอิ่มตัว 3 ก.
ไขมันทรานซ์ 1 ก.
โคเลสเตอรอล 26 มก.
โซเดียม 25 มก.
คาร์โบไฮเดรตทั้งหมด 9 ก.
ใยอาหาร 1 ก.
น้ำตาล 5 ก.
โปรตีน 1 ก.
*ข้อมูลสารอาหารและรายละเอียดเป็นค่าประมาณการ โปรดใช้ข้อมูลในการวางแผนการบริโภคเท่านั้น.

วัตถุดิบซากุระแมดเดอลีน
salt
เกลือ (Salt) หรือเกลือโซเดียมนั้นมีแร่ธาตุหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมก็อาจส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย ดังนี้ ป้องกันภาวะความดันโลหิตต่ำ,ป้องกันภาวะขาดน้ำ และป้องกันการขาดไอโอดีน แต่ต้องรับประทานในขนาดที่เหมาะสมต่อวันมิเช่นนั้นจะเดิดโทษต่อร่างกาย มากกว่าได้ประโยชน์
butter
เนย (Butter) เป็นไขมันสัตว์ที่ถูกนำไปผ่านกระบวนการแยกออกมาจากน้ำนมหรือครีม ส่วนใหญ่จะใช้น้ำนมจากสัตว์ เช่น วัว ควาย แพะ หรือแกะ กระบวนการผลิตเนย เริ่มจากการนำน้ำนมไปเข้าเครื่องจักรเพื่อปั่นหรือเหวี่ยงด้วยความเร็วสูง เมื่อเหวี่ยงจนได้ที่จะได้วัตถุดิบออกมา 2 ชนิด คือ บัตเตอร์มิลค์ เป็นส่วนของน้ำสีขาวขุ่น และเนย เป็นส่วนของก้อนไขมันสีเหลืองๆ ซึ่งก็คือเนยแท้ หรือที่เรียกกันติดปากว่า ‘เนยสด’ นั่นเอง
sugar
น้ำตาล (Sugar) คือ สารประกอบคาร์โบไฮเดรตประเภทโมโนแซ็กคาไรด์ (monosaccharide) และไดแซ็กคาไรด์ (disaccharide) ซึ่งมีรสหวาน โดยทั่วไปจะได้มากจากอ้อย มะพร้าว แต่โดยทั่วไปแล้วจะเรียกอาหารที่มีรสหวานว่าน้ำตาลแทบทั้งสิ้น เช่น ทำมาจากตาลจะเรียกว่าตาลโตนด ทำมาจากมะพร้าวจะเรียกว่าน้ำตาลมะพร้าว ทำมาจากงวงจากจะเรียกว่าน้ำตาลจาก ทำมาจากงบจะเรียกว่าน้ำตาลงบ ทำมาจากอ้อยแต่ยังไม่ได้ทำเป็นน้ำตาลทรายจะเรียกว่าน้ำตาลทรายดิบ ถ้านำมาทำเป็นเม็ดจะเรียกว่าน้ำตาลทราย หรือถ้านำมาทำเป็นก้อนแข็งคล้ายกรวดจะเรียกว่าน้ำตาลกรวด ฯลฯ
baking powder
เบคกิ้งพาวเดอร์ หรือ ผงฟู เป็นส่วนผสมแห้งของสารเคมีคือ เบคกิ้งโซดา+กรดอ่อนๆ + แป้ง เป็นตัวที่ทำให้ขนมของเรานั้นฟูขึ้นเช่นกัน เราจะเห็นว่าในส่วนผสมของผงฟูนั้นมีกรดอ่อนๆ ผสมอยู่แล้วเมื่อเติมน้ำลงไป กรดอ่อนและด่างอ่อนๆ จากเบคกิ้งโซดาก็จะทำปฏิกริยาเกิดฟองแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นมา ด้วยความที่มีกรดเป็นส่วนผสมอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องอาศัยกรดจากวัตถุดิบอื่นๆ ของอาหาร ขนมปังที่ทำมาจากส่วนผสมของสารเคมีแบบแห้งว่า Quick bread ยกตัวอย่างเช่น แพนเค้ก มัฟฟิน หรือบิสกิต เป็นต้น
milk
นม หรือ น้ำนม (Milk) คือ ของเหลวสีขาวที่มีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็กหรือสัตว์เกิดใหม่ ที่ผลิตออกมาจากเต้านมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อาทิเช่น มนุษย์ วัว แพะ แกะ ควาย ม้า ลา อูฐ จามรี เรีนเดียร์ ลามา แมวน้ำ และยังรวมไปถึงเครื่องดื่มที่ใช้แทนนมด้วย เช่น นมถั่วเหลือง น้ำนมข้าว นมข้าวโพด นมแอลมอนด์เป็นต้น

 

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF