เค้กแบทเทนเบิร์ก Battenberg Cake
เค้กแบทเทนเบิร์ก Battenberg Cake จะมีอะไรที่ดีมากไปกว่าการได้ทำเมนูสุดพิเศษ ที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน แอดซูเฟล่ชวนทำเมนูเด็ด เค้กแบทเทนเบิร์กเค้กสไตล์อังกฤษ ซึ่งแอดซูเฟล่ลองทำมาแล้วอร่อยมากๆเลยค่ะ อยากแชร์สูตรเลย สูตรเค้กแบทเทนเบิร์ก สูตรนี้ดัดแปลงมาจาก bbc.co.uk เค้กเนื้ออัลมอนด์สีชมพูสลับเหลือง คลุมหน้าด้วยอัลมอนด์บดที่รีดเป็นแผ่นคิดดูสิ แค่คิดก็น้ำลายไหลแล้วแม๊ เกริ่นมานานหิวแล้ว มาทำเค้กแบทเทนเบิร์กเจ้าค่ะ อร่อยเด็ดเมนูระดับมิชิลินสตาร์ มาค่ะดาวน์โหลดสูตร มือขวาควงตะหลิว มือซ้ายจับกระทะ สาวเท้าก้าวเข้าครัวไปกับเมนูเค้กแบทเทนเบิร์กกันเลยค่ะ
).push({});
สูตรเค้กแบทเทนเบิร์ก | ||
– สำหรับส่วนเค้ก | ||
เนยจืด 175 กรัม (6 ออนซ์) และอีกมาก | ||
175 กรัม (6 ออนซ์) น้ำตาลทรายแดง (หรือน้ำตาลปกติ หากไม่มี) | ||
ไข่ 3 ฟอง | ||
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 175 กรัม (6 ออนซ์) | ||
วานิลลาสกัด 1/2 ช้อนชา | ||
สีผสมอาหารแบบเจล สีแดง | ||
– สำหรับประกอบเค้ก | ||
แยมแอปริคอท 6 ช้อนโต๊ะ | ||
น้ำตาลไอซิ่ง 2-3 ช้อนโต๊ะสำหรับกลิ้ง |
วิธีทำเค้กแบทเทนเบิร์ก | ||
ตั้งเตาอบให้ร้อนที่ 190 องศาเซลเซียส/375 องศาฟาเรนไฮต์ | ||
เคลือบด้านในของพิมพ์เค้กสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 20 ซม./8 นิ้ว (มีก้นที่ถอดออกได้) ด้วยเนย | ||
จากนั้นวางกระดาษรองอบ ลงบนกระดาษฟอยล์ ต่อไป พับครึ่งตามความยาว จากนั้นเปิดขึ้นแล้วดันพับตรงกลางขึ้นเพื่อสร้างจีบ 4 ซม. ตรงกลาง | ||
ใส่ในพิมพ์เค้ก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ติดกับพื้นผิว ผลลัพธ์ที่ได้คือ ส่วน 20×10 ซม. (8×4 นิ้ว) สองส่วน | ||
ใส่เนย น้ำตาล แป้ง ไข่ และวานิลลาลงในชามผสม แล้วตีด้วยเครื่องผสมจนเข้ากันดี แบ่งแป้งออกเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน จากนั้นใส่สีผสมอาหารสีแดงลงไปครึ่งหนึ่งแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน | ||
ย้ายแป้งแต่ละชิ้นลงในส่วนที่แยกกันของพิมพ์เค้ก จากนั้นเกลี่ยพื้นผิวของทั้งสองให้เรียบ | ||
นำเข้าอบกลางเตาอบประมาณ 25 นาทีหรือจนขึ้น | ||
นำออกจากเตาอบและปล่อยให้เย็นเป็นเวลาห้านาที จากนั้นใช้มีดปาดขอบเพื่อคลายเนื้อเค้กฟองน้ำ ถัดไป นำออกจากกระป๋องแล้ววางบนตะแกรงให้เย็นสนิท สุดท้าย หากเนื้อเค้กฟองน้ำมีความสูงไม่เท่ากัน ให้กดเบา ๆ เพื่อให้เสมอกัน | ||
ซ้อนเนื้อเค้กฟองน้ำ แล้วเล็มขอบออกเพื่อให้เรียบและสม่ำเสมอ จากนั้น ผ่าเนื้อเค้กฟองน้ำแต่ละอันตามยาวครึ่งหนึ่งเพื่อให้ได้เนื้อเค้กฟองน้ำสี่อัน | ||
อุ่นแยมแอปริคอตบนไฟอ่อน แล้วกรองผ่านตะแกรงเพื่อให้เกลี่ยได้ง่ายขึ้น | ||
เกลี่ยด้านยาวของเนื้อเค้กฟองน้ำที่เบากว่าแต่ละอันด้วยแยมแอปริคอท จากนั้นทากาวที่ด้านยาวของเนื้อเค้กฟองน้ำสีเข้มแต่ละอัน | ||
เกลี่ยด้านบนของเนื้อเค้กฟองน้ำติดกาวหนึ่งคู่ด้วยแยมแอปริคอท จากนั้นวางเนื้อเค้กฟองน้ำติดกาวอีกคู่หนึ่งด้านบนเพื่อสร้าลายตารางหมากรุก ทาด้านบนและด้านข้างด้วยแยมแอปริคอท | ||
โรยน้ำตาลไอซิ่งให้ทั่วพื้นผิวการทำงาน จากนั้นวางมาร์ซิแพนด้านบนแล้วคลึงเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 40×20 ซม./16×10 นิ้ว | ||
วางเค้กคว่ำลงตรงกลางมาร์ซิปัน ทาด้านล่างของเค้กด้วยแยมแอปริคอท | ||
ห่อเค้กด้วยมาร์ซิแพน จากนั้นเกลี่ยด้านข้างให้เรียบด้วยมีดจานสีขนาดใหญ่ เพื่อช่วยให้มาร์ซิแพนติดเค้กแล้วกดที่ขอบเพื่อผนึก พลิกด้านตะเข็บเค้กลง จากนั้นหั่นขอบ | ||
วางบนจานและเสิร์ฟ ทานให้อร่อยนะคะ |
ขอขอบคุณข้อมูล – https://www.tasteatlas.com/battenberg-cake/recipe
วัตถุดิบเค้กแบทเทนเบิร์ก | ||
butter | ||
เนย (Butter) เป็นไขมันสัตว์ที่ถูกนำไปผ่านกระบวนการแยกออกมาจากน้ำนมหรือครีม ส่วนใหญ่จะใช้น้ำนมจากสัตว์ เช่น วัว ควาย แพะ หรือแกะ กระบวนการผลิตเนย เริ่มจากการนำน้ำนมไปเข้าเครื่องจักรเพื่อปั่นหรือเหวี่ยงด้วยความเร็วสูง เมื่อเหวี่ยงจนได้ที่จะได้วัตถุดิบออกมา 2 ชนิด คือ บัตเตอร์มิลค์ เป็นส่วนของน้ำสีขาวขุ่น และเนย เป็นส่วนของก้อนไขมันสีเหลืองๆ ซึ่งก็คือเนยแท้ หรือที่เรียกกันติดปากว่า ‘เนยสด’ นั่นเอง | ||
sugar | ||
น้ำตาล (Sugar) คือ สารประกอบคาร์โบไฮเดรตประเภทโมโนแซ็กคาไรด์ (monosaccharide) และไดแซ็กคาไรด์ (disaccharide) ซึ่งมีรสหวาน โดยทั่วไปจะได้มากจากอ้อย มะพร้าว แต่โดยทั่วไปแล้วจะเรียกอาหารที่มีรสหวานว่าน้ำตาลแทบทั้งสิ้น เช่น ทำมาจากตาลจะเรียกว่าตาลโตนด ทำมาจากมะพร้าวจะเรียกว่าน้ำตาลมะพร้าว ทำมาจากงวงจากจะเรียกว่าน้ำตาลจาก ทำมาจากงบจะเรียกว่าน้ำตาลงบ ทำมาจากอ้อยแต่ยังไม่ได้ทำเป็นน้ำตาลทรายจะเรียกว่าน้ำตาลทรายดิบ ถ้านำมาทำเป็นเม็ดจะเรียกว่าน้ำตาลทราย หรือถ้านำมาทำเป็นก้อนแข็งคล้ายกรวดจะเรียกว่าน้ำตาลกรวด ฯลฯ | ||
eggs | ||
ไข่ (Eggs) เป็นหนึ่งในอาหารโปรตีนสูง ใน 1 ฟองจะมีโปรตีน 6 กรัม จึงถือเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ซึ่งผู้ที่ต้องการมีกล้ามเนื้อทั้งหลายต่างเลือกรับประทาน เพราะเชื่อว่าจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ดี เนื่องจากโปรตีนมีส่วนช่วยในการเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย เนื่องจากในไข่มีสารโคลีน (Choline) มากถึง 20% เป็นปริมาณที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน ที่เมื่อไปรวมกับกรดไขมันฟอสโฟลิพิด (Phospholipid) จะเกิดเป็นสารเลซิทิน (Lecithin) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของสมอง จึงเชื่อกันว่าไข่อาจช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมอง และช่วยให้ระบบประสาทแข็งแรงได้ | ||
vanilla | ||
วานิลลา (Vanilla) เป็นกลิ่นที่ได้จากฝักของกล้วยไม้สกุล Vanilla ต้นกำเนิดจากเม็กซิโก ชื่อวานิลลามาจากคำในภาษาสเปนว่า “ไบย์นียา” (vainilla) ซึ่งแปลว่า ฝักเล็ก ๆ วานิลลามักถูกนำมาใช้แต่งกลิ่นในการทำอาหารประเภทของหวานและไอศกรีม | ||
apricot | ||
แอปริคอต การรับประทานแอปริคอตเป็นประจำจะช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ใช้รับประทานเป็นยาบำรุงร่างกาย ช่วยในการฟื้นตัวจากอาการเจ็บป่วยได้เร็วยิ่งขึ้น ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค ป้องกันหวัด ช่วยรักษาระดับความสมดุลของอิเล็กโทรไลต์ในร่างกาย (โพแทสเซียมและโซเดียม) | ||
apricot jam | ||
แอปริคอต การรับประทานแอปริคอตเป็นประจำจะช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ใช้รับประทานเป็นยาบำรุงร่างกาย ช่วยในการฟื้นตัวจากอาการเจ็บป่วยได้เร็วยิ่งขึ้น ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค ป้องกันหวัด ช่วยรักษาระดับความสมดุลของอิเล็กโทรไลต์ในร่างกาย (โพแทสเซียมและโซเดียม) |
Post Views:
399