ขนมปังข้าวโพด Cornbread
ขนมปังข้าวโพด Cornbread จะมีอะไรที่ดีมากไปกว่าการได้ทำเมนูสุดพิเศษ ที่เราทำเองได้ที่บ้าน แอดครูตองซ์ชวนทำเมนู ขนมปังข้าวโพดสไตล์สไตล์อเมริกัน ซึ่งแอดครูตองซ์ลองทำมาแล้วอร่อยมากๆเลยค่ะ อยากแชร์สูตรเลย สูตรดั้งเดิมสำหรับ Cornbread ดัดแปลงจาก SeriousEats ขนมปังข้าวโพดหอมอร่อย ได้รสชาติข้าวโพดเต็มๆนึกดูสิที่รัก จะมีอะไรเลิศไปกว่านี้ บรรยายซะเห็นภาพน้ำลายไหล มาทำขนมปังข้าวโพดเจ้าค่ะ อร่อยเด็ดเมนูประจำตัว มาค่ะดาวน์โหลดสูตร มือขวาควงตะหลิว มือซ้ายจับกระทะ สาวเท้าก้าวเข้าครัวไปกับเมนูขนมปังข้าวโพดกันเลยค่ะ
สูตรขนมปังข้าวโพด
คอร์นมีลบด 3 ถ้วย
เกลือโคเชอร์ 2 ช้อนชา
ผงฟู 2 ช้อนชา
เบกกิ้งโซดา 3/4 ช้อนชา
น้ำตาล 3 ช้อนชา (ไม่จำเป็น)
บัตเตอร์มิลค์ 2 ½ ถ้วย
ไข่ 3 ฟอง
เนยจืด 1 ½ แท่ง ละลาย แบ่ง
วิธีทำขนมปังข้าวโพด
ตั้งเตาอบให้อุ่นที่ 375 ° F จากนั้นวางกระทะเหล็กหล่อขนาด 12 นิ้ว ตรงกลางของเตาอบ
ต่อไป ให้ใส่ คอร์นมีล, เกลือ, ผงฟู, เบกกิ้งโซดา และน้ำตาล ลงในชามผสม แล้วคนให้เข้ากัน
นำชามแยก ใส่บัตเตอร์มิลค์และไข่ลงไป และในขณะที่คนอย่างต่อเนื่อง ให้เทเนยละลายลงไปทั้งหมด ยกเว้นหนึ่งช้อนโต๊ะ
เทส่วนผสมของเหลวลงในของแห้ง แล้วคนให้เข้ากัน อย่าผสมมากเกินไป เพียงไม่กี่ก้อนที่นี่และก็ใช้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เพิ่มช้อนโต๊ะที่เหลือลงในกระทะที่อุ่นแล้ว หมุนกระทะเพื่อให้เคลือบด้านล่างและด้านข้าง ปาดแป้งลงในกระทะ แล้วใช้พายยางปาดให้เรียบ
ใส่ในเตาอบอุ่นและอบประมาณ 45 นาทีหรือจนด้านบนเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนและไม้เสียบที่เสียบตรงกลางออกมาสะอาด
เมื่อเสร็จแล้ว ทิ้ง คอร์นเบรด ไว้ให้เย็นในกระทะเป็นเวลา 15 นาที แล้วเสิร์ฟในขณะที่ยังอุ่นอยู่ ทานให้อร่อยนะคะ
VIDEO
ขอขอบคุณข้อมูล – https://www.tasteatlas.com/cornbread/recipe
ประวัติขนมปังข้าวโพด
นานก่อนที่ผู้ตั้งถิ่นฐานจะมาถึง ข้าวโพดเป็นส่วนหนึ่งของชนพื้นเมืองอเมริกัน’ อาหารเป็นเวลาหลายพันปี มันจะบดเป็นอาหาร ซึ่งใช้ในอาหารหลายจาน หนึ่งในนั้นคือขนมปังข้าวโพด ส่วนผสมของแป้งข้าวโพดกับน้ำเปล่า อบด้วยไฟแบบเปิด อย่างไรก็ตาม ในตอนแรก ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอังกฤษไม่นิยมข้าวโพด เนื่องจากเห็นว่าข้าวโพดไม่เหมาะสำหรับการบริโภคของมนุษย์ และจะใช้มันเพื่อเลี้ยงสัตว์เท่านั้น เมื่อข้าวสาลีเริ่มขาดแคลน พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรวมข้าวโพดไว้ในอาหาร จึงมีรูปแบบต่างๆ ของขนมปัง cornmeal เกิดขึ้น ชื่อของพวกเขา
ยังสะท้อนถึงความด้อยกว่าที่สันนิษฐานได้เพราะพวกเขารวมข้าวโพด นอกจากนี้ สูตรและวิธีการเตรียมไม่เหมือนกันในสหรัฐอเมริกาทั้งหมด ในภาคใต้ พวกเขาปลูกข้าวโพดขาวที่มีรสหวานซึ่งไม่ต้องการน้ำตาลเพิ่ม ในขณะที่ข้าวโพดสีเหลืองเป็นที่นิยมในภาคเหนือ และข้าวโพดสีน้ำเงินเป็นที่แพร่หลายในตะวันตกเฉียงใต้ Amelia Simmons American Cookery จากปี 1796 เป็นคนแรกที่นำเสนอสูตรสำหรับ hoecakes ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของ George Washington ที่จะกินพวกเขาเป็นอาหารเช้า การเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเปลี่ยนศตวรรษที่ 20 เมื่อการกัดเชิงอุตสาหกรรมเริ่มแพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากโรงสีเหล่านี้ใช้เฉพาะข้าวโพดสีเหลืองที่ยังไม่สุก ผลลัพธ์ที่ได้จึงแทบไม่หวาน
คอร์นเบรดที่ทำด้วยแป้งนั้นต้องใช้แป้งพิเศษในการยก และยังต้องใส่น้ำตาลเพิ่มด้วย แต่เนื่องจากมันถูกกว่า ในข้าวโพดบดทางตอนใต้ที่ทำจากข้าวโพดสีเหลืองจึงถูกรับเลี้ยงโดยคนยากจน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวแอฟริกันอเมริกัน ในขณะที่ข้าวโพดบดสีขาวสงวนไว้สำหรับคนผิวขาวที่สามารถซื้อได้เท่านั้น วันนี้ cornbread ถูกเรียกว่ารากฐานที่สำคัญของอาหารภาคใต้ แต่ขึ้นอยู่กับว่าคุณถามใคร คุณจะได้คำตอบที่ต่างออกไปว่า cornbread ของ Southern คืออะไร ชาวแอฟริกันอเมริกันใส่น้ำตาลลงใน cornbread ซึ่งมีลักษณะเหมือนเค้กมากกว่า ในขณะที่ชาวใต้ขาวยืนยันว่า cornbread ที่แท้จริงไม่ควรมีน้ำตาลและไม่มีแป้ง ดังนั้น เป็นไปได้มากว่า cornbread แบบหวานไม่ได้เป็นเพียงคิดค้นของชาวเหนือเท่านั้น
วัตถุดิบขนมปังข้าวโพด
cornmeal
คอร์นมีล (Cornmeal) คือข้าวโพดที่บดเป็นผง นอกจากนี้ยังเรียกว่า แป้งข้าวโพด และนำมาปรุงเป็นอาหาร เช่น ขนมปังหรือพิชซ่า และขนมอื่นๆ ประเทศที่นิยมใช้ได้แก่ ซิมบับเว แอฟริกาตะวันตก อเมริกา และอิตาลี
salt
เกลือ (Salt) หรือเกลือโซเดียมนั้นมีแร่ธาตุหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมก็อาจส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย ดังนี้ ป้องกันภาวะความดันโลหิตต่ำ,ป้องกันภาวะขาดน้ำ และป้องกันการขาดไอโอดีน แต่ต้องรับประทานในขนาดที่เหมาะสมต่อวันมิเช่นนั้นจะเดิดโทษต่อร่างกาย มากกว่าได้ประโยชน์
baking powder
เบคกิ้งพาวเดอร์ หรือ ผงฟู เป็นส่วนผสมแห้งของสารเคมีคือ เบคกิ้งโซดา+กรดอ่อนๆ + แป้ง เป็นตัวที่ทำให้ขนมของเรานั้นฟูขึ้นเช่นกัน เราจะเห็นว่าในส่วนผสมของผงฟูนั้นมีกรดอ่อนๆ ผสมอยู่แล้วเมื่อเติมน้ำลงไป กรดอ่อนและด่างอ่อนๆ จากเบคกิ้งโซดาก็จะทำปฏิกริยาเกิดฟองแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นมา ด้วยความที่มีกรดเป็นส่วนผสมอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องอาศัยกรดจากวัตถุดิบอื่นๆ ของอาหาร ขนมปังที่ทำมาจากส่วนผสมของสารเคมีแบบแห้งว่า Quick bread ยกตัวอย่างเช่น แพนเค้ก มัฟฟิน หรือบิสกิต เป็นต้น
baking soda
เบคกิ้งโซดา (Baking soda) เป็นผงสีขาว มีรสเค็มเล็กน้อย และมีฤทธิ์เป็นด่างอ่อนๆ บางก็เรียกว่าโซดาทำขนม เบคกิ้งโซดาไม่ใช่ผงฟู แต่เบคกิ้งโซดาเป็นส่วนประกอบอย่างหนึ่งที่มีอยู่ในผงฟู หลายคนอาจสับสนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นตัวเดียวกัน เบคกิ้งโซดาสำหรับใช้ทำขนมอบต่างๆ เพราะเมื่อเบคกิ้งโซดาทำปฏิกริยากับน้ำหรือกรดอ่อนๆ ที่มาจากส่วนผสมอื่นๆของอาหาร เช่น แป้งทำขนม, ช็อคโกแลต, น้ำตาล ซึ่งมีความเป็นกรดก็จะทำปฏิกริยากันกัน ให้ฟองแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นมา ทำให้เนื้อขนมขยายขนาดหรือฟูขึ้นนั่นเอง
sugar
น้ำตาล (Sugar) คือ สารประกอบคาร์โบไฮเดรตประเภทโมโนแซ็กคาไรด์ (monosaccharide) และไดแซ็กคาไรด์ (disaccharide) ซึ่งมีรสหวาน โดยทั่วไปจะได้มากจากอ้อย มะพร้าว แต่โดยทั่วไปแล้วจะเรียกอาหารที่มีรสหวานว่าน้ำตาลแทบทั้งสิ้น เช่น ทำมาจากตาลจะเรียกว่าตาลโตนด ทำมาจากมะพร้าวจะเรียกว่าน้ำตาลมะพร้าว ทำมาจากงวงจากจะเรียกว่าน้ำตาลจาก ทำมาจากงบจะเรียกว่าน้ำตาลงบ ทำมาจากอ้อยแต่ยังไม่ได้ทำเป็นน้ำตาลทรายจะเรียกว่าน้ำตาลทรายดิบ ถ้านำมาทำเป็นเม็ดจะเรียกว่าน้ำตาลทราย หรือถ้านำมาทำเป็นก้อนแข็งคล้ายกรวดจะเรียกว่าน้ำตาลกรวด ฯลฯ
milk
นม หรือ น้ำนม (Milk) คือ ของเหลวสีขาวที่มีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็กหรือสัตว์เกิดใหม่ ที่ผลิตออกมาจากเต้านมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อาทิเช่น มนุษย์ วัว แพะ แกะ ควาย ม้า ลา อูฐ จามรี เรีนเดียร์ ลามา แมวน้ำ และยังรวมไปถึงเครื่องดื่มที่ใช้แทนนมด้วย เช่น นมถั่วเหลือง น้ำนมข้าว นมข้าวโพด นมแอลมอนด์เป็นต้น
buttermilk
บัตเตอร์มิลค์ (Buttermilk) เป็นของเหลวที่ได้จาก ตีครีมเพื่อเปลี่ยนเป็นเนย. ง่ายๆแค่นั้นเอง เนื้อสัมผัสคล้ายกับนมพร่องมันเนยและรสชาติของมันมีรสขม ในการทำขนมจะใช้เพราะมันเพิ่มความ ความเป็นฟอง ของมวลชนและให้ รสชาติ เหมาะสำหรับสโคนและคัพเค้ก
butter
เนย (Butter) เป็นไขมันสัตว์ที่ถูกนำไปผ่านกระบวนการแยกออกมาจากน้ำนมหรือครีม ส่วนใหญ่จะใช้น้ำนมจากสัตว์ เช่น วัว ควาย แพะ หรือแกะ กระบวนการผลิตเนย เริ่มจากการนำน้ำนมไปเข้าเครื่องจักรเพื่อปั่นหรือเหวี่ยงด้วยความเร็วสูง เมื่อเหวี่ยงจนได้ที่จะได้วัตถุดิบออกมา 2 ชนิด คือ บัตเตอร์มิลค์ เป็นส่วนของน้ำสีขาวขุ่น และเนย เป็นส่วนของก้อนไขมันสีเหลืองๆ ซึ่งก็คือเนยแท้ หรือที่เรียกกันติดปากว่า ‘เนยสด’ นั่นเอง
eggs
ไข่ (Eggs) เป็นหนึ่งในอาหารโปรตีนสูง ใน 1 ฟองจะมีโปรตีน 6 กรัม จึงถือเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ซึ่งผู้ที่ต้องการมีกล้ามเนื้อทั้งหลายต่างเลือกรับประทาน เพราะเชื่อว่าจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ดี เนื่องจากโปรตีนมีส่วนช่วยในการเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย เนื่องจากในไข่มีสารโคลีน (Choline) มากถึง 20% เป็นปริมาณที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน ที่เมื่อไปรวมกับกรดไขมันฟอสโฟลิพิด (Phospholipid) จะเกิดเป็นสารเลซิทิน (Lecithin) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของสมอง จึงเชื่อกันว่าไข่อาจช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมอง และช่วยให้ระบบประสาทแข็งแรงได้
Post Views:
325