คาสเทลล่า Kasutera
คาสเทลล่า Kasutera วันนี้แอดมินจะมาชวนทำเค้กสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งแอดมินลองทำมาแล้วอร่อยมากๆเลยค่ะ อยากแชร์สูตรเลย นั่นคือคาสเทลล่า ใครมากชิมก็ต้องยกนิ้วให้ สูตรเค้กคาสเทลล่า Kasutera ดัดแปลงจากบล็อก Just Hungry เค้กไข่เนื้อเนียนอร่อยนุ่ม รสชาติหวานหอม เอกลักษณ์อยู่ที่เนื้อเค้กสีเหลืองและหน้าเค้กด้านบนที่เป็นสีน้ำตาลเข้ม ทำจากไข่ แป้ง น้ำตาล และน้ำผึ้งหรือน้ำเชื่อมเพื่อนๆสามารถ เปิดสูตรและทำตามได้เลยค่ะ แอดมินรับประกันความอร่อยระดับ 5 ดาวค่ะ พูดไปแล้วท้องก็ร้อง ไปลุยกันเลยค่ะ มาทำคาสเทลล่ากัน แคคิดก็น้ำลายไหลแล้ว มาค่ะ ดาวน์โหลดสูตร มือขวาควงตะหลิว มือซ้ายจับกระทะ สาวเท้าก้าวเข้าครัวไปกับเมนูคาสเทลล่ากันเลยค่ะ
สูตรคาสเทลล่า
ไข่ใบใหญ่ (55 กรัม) 8 ฟอง
น้ำตาล 300 กรัม และน้ำตาลเพิ่มเล็กน้อยสำหรับโรย
แป้งอเนกประสงค์หรือแป้งขนมปัง 200 กรัม
นม 100ml
น้ำผึ้ง 4 ช้อนโต๊ะ และท็อปปิ้งอีก 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำคาสเทลล่า
ตั้งเตาอบให้อุ่นที่ 170°C หรือ 150°C หากใช้เตาอบแบบหมุนเวียน
ขั้นแรก เคลือบด้านล่างและด้านข้างของถาดอบ (ยาว 30 ซม. X กว้าง 10 ซม.) ด้วยเนยแล้ววางกระดาษรองอบไว้ โดยให้กระดาษส่วนหนึ่งห้อยอยู่ด้านข้างของถาด โรยด้านล่างของกระทะด้วยน้ำตาล
ตั้งน้ำให้เดือด แล้วยกลงจากเตา
ปัดนมและน้ำผึ้งเข้าด้วยกัน (ให้อุ่นในไมโครเวฟโดยเร็ว ถ้าไม่สามารถผสมได้) และร่อนแป้งสองครั้ง
วางชามบนกระทะที่มีน้ำร้อน จากนั้นใส่ไข่และน้ำตาลลงในชาม ปัดด้วยเครื่องผสมไฟฟ้าที่ความเร็วต่ำสุดจนอุ่นจนสัมผัสได้ นำชามออกจากกระทะด้วยน้ำแล้วตีต่อ หากในช่วงเวลาใดที่ส่วนผสมเย็นลง ให้วางชามกลับบนกระทะด้วยน้ำร้อนแล้วตีจนอุ่น แป้งจะสุกเมื่อมันหนามากจนเมื่อเพื่อนๆดึงแป้งขึ้น จะเกิดยอดอ่อน
จากนั้นตีส่วนผสมนมและน้ำผึ้ง จากนั้นใส่แป้งช้อนโต๊ะทีละช้อนโต๊ะ คนตลอดเวลาจนเข้ากัน
เมื่อเค้กเย็นพอที่จะจับได้ ให้ใส่เค้ก (โดยใส่กระดาษรองอบไว้) ลงในถุงพลาสติกแล้วปิดผนึก แช่เย็นสองสามชั่วโมง
เมื่อพร้อมเสิร์ฟ ขั้นแรก ให้หั่นขอบเค้กออก แล้วหั่นเป็นชิ้นบางๆ ทานให้อร่อยนะคะ
VIDEO
ขอขอบคุณข้อมูล – https://www.tasteatlas.com/kasutera/recipe
ประวัติคาสเทลล่า
เค้กสปองจ์เค้กที่คล้ายกับ kasutera ได้รับการแนะนำครั้งแรกในญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 โดยพ่อค้าชาวโปรตุเกสผ่านทางนางาซากิ ในขณะนั้นท่าเรือญี่ปุ่นเพียงแห่งเดียวที่เปิดให้ค้าต่างประเทศ ในขั้นต้น เนื่องจากราคาน้ำตาลสูง เค้กจึงถือเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย แต่เนื่องจากสามารถเก็บความสดได้นาน จึงเป็นที่นิยมในหมู่กะลาสีเรือ ได้รับการตั้งชื่อตามวลีภาษาโปรตุเกส pão de Castela ซึ่งหมายถึง ขนมปังจากแคว้นคาสตีล แคว้นกัสติยาเป็นอาณาจักรเก่าในสเปน และ pão de Castela ที่จริงแล้ว เค้กสปองจ์เค้กโปรตุเกส pão de ló
วัตถุดิบคาสเทลล่า
eggs
ไข่ (Eggs) เป็นหนึ่งในอาหารโปรตีนสูง ใน 1 ฟองจะมีโปรตีน 6 กรัม จึงถือเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ซึ่งผู้ที่ต้องการมีกล้ามเนื้อทั้งหลายต่างเลือกรับประทาน เพราะเชื่อว่าจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ดี เนื่องจากโปรตีนมีส่วนช่วยในการเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย เนื่องจากในไข่มีสารโคลีน (Choline) มากถึง 20% เป็นปริมาณที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน ที่เมื่อไปรวมกับกรดไขมันฟอสโฟลิพิด (Phospholipid) จะเกิดเป็นสารเลซิทิน (Lecithin) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของสมอง จึงเชื่อกันว่าไข่อาจช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมอง และช่วยให้ระบบประสาทแข็งแรงได้
sugar
น้ำตาล (Sugar) คือ สารประกอบคาร์โบไฮเดรตประเภทโมโนแซ็กคาไรด์ (monosaccharide) และไดแซ็กคาไรด์ (disaccharide) ซึ่งมีรสหวาน โดยทั่วไปจะได้มากจากอ้อย มะพร้าว แต่โดยทั่วไปแล้วจะเรียกอาหารที่มีรสหวานว่าน้ำตาลแทบทั้งสิ้น เช่น ทำมาจากตาลจะเรียกว่าตาลโตนด ทำมาจากมะพร้าวจะเรียกว่าน้ำตาลมะพร้าว ทำมาจากงวงจากจะเรียกว่าน้ำตาลจาก ทำมาจากงบจะเรียกว่าน้ำตาลงบ ทำมาจากอ้อยแต่ยังไม่ได้ทำเป็นน้ำตาลทรายจะเรียกว่าน้ำตาลทรายดิบ ถ้านำมาทำเป็นเม็ดจะเรียกว่าน้ำตาลทราย หรือถ้านำมาทำเป็นก้อนแข็งคล้ายกรวดจะเรียกว่าน้ำตาลกรวด ฯลฯ
bread
ขนมปัง (Bread) เป็นอาหารที่ทำจากแป้งสาลีที่ผสมกับน้ำและยีสต์ หรือผงฟู นอกจากนี้ยังมีการใช้ส่วนผสมอื่น ๆ เพื่อแต่งสี รสชาติและกลิ่น แตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทของขนมปัง และ แต่ละประเทศที่ทำ โดยนำส่วนผสมมาตีให้เข้ากันและนำไปอบ ขนมปังมีหลายประเภท เช่น ขนมปังฝรั่งเศส ขนมปังไรย์ หรือแม้กระทั่งเพรตเซิล ของขึ้นชื่อประเทศเยอรมนี
milk
นม หรือ น้ำนม (Milk) คือ ของเหลวสีขาวที่มีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็กหรือสัตว์เกิดใหม่ ที่ผลิตออกมาจากเต้านมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อาทิเช่น มนุษย์ วัว แพะ แกะ ควาย ม้า ลา อูฐ จามรี เรีนเดียร์ ลามา แมวน้ำ และยังรวมไปถึงเครื่องดื่มที่ใช้แทนนมด้วย เช่น นมถั่วเหลือง น้ำนมข้าว นมข้าวโพด นมแอลมอนด์เป็นต้น
honey
น้ำผึ้ง (Honey) เป็นอาหารหวานที่ผึ้งผลิตโดยใช้น้ำหวานจากดอกไม้ พืชพันธุ์ชนิดต่างๆ น้ำผึ้งมักหมายถึงชนิดที่ผลิตโดยผึ้งน้ำหวานในสายพันธุ์ Apis เนื่องจาก เป็นผึ้งเก็บน้ำหวานให้คุณภาพสูง และสามารถเลี้ยงระบบกล่องได้ น้ำผึ้งมีประวัติการบริโภคของมนุษย์มายาวนาน และถูกใช้เป็นสารให้ความหวานในอาหารและเครื่องดื่มหลายชนิด
Post Views:
296