เค้กเมโดวิค Medovik

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF


เค้กเมโดวิค

เค้กเมโดวิค Medovik

เค้กเมโดวิค Medovik ถ้าคุณกำลังหาสูตรทีเด็ดของเค้กเมโดวิค แอดชูครีมก็ว่ามาถูกที่แล้วค่ะ ถูกต้องนะค้าบแอดชูครีมขอนำเสนอเค้กเมโดวิค สูตรเค้กเมโดวิค สูตรสูตรสูตรนี้ดัดแปลงมาจาก bublichkina เค้กเป็นชั้นสวยงาม นุ่มนวลหอมน้ำผึ้ง แต่ละชั้นคั่นด้วยครีม เพิ่มรสสัมผัสด้วยครัสบิสกิตอร่อยกลมกล่อม ลองคิดดูเค้กสไตล์ยุโรปตะวันออก ซึ่งแอดชูครีมลองทำมาแล้วอร่อยมากๆเลยค่ะ อยากแชร์สูตรเลย ไปลองทำของอร่อยๆ กินกันค่ะ โอ๊ย..อยากกินแล้วน้ำลายไหล มาทำเค้กเมโดวิคกันเลยค่ะ อร่อยเด็ดเมนูติดดาว มาค่ะดาวน์โหลดสูตร มือขวาควงตะหลิว มือซ้ายจับกระทะ สาวเท้าก้าวเข้าครัวไปกับเมนูเค้กเมโดวิคกันเลยค่ะ


สูตรเค้กเมโดวิค
– ชั้นเค้ก
ไข่ 5 ฟอง
น้ำตาล 3 1/4 ถ้วย (650 กรัม)
6 1/3 ถ้วย (750g) แป้งและอีกมากสำหรับปัดฝุ่น
น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ
ผงฟู 2 ช้อนโต๊ะ
– ส่วนผสมสำหรับไส้
ซาวครีม 700 กรัม (24.7 ออนซ์)
น้ำตาล 200 กรัม (7 ออนซ์)

 

วิธีทำเค้กเมโดวิค
เตรียมชามและกระทะสำหรับ bain-marie ชามควรจะใส่ในกระทะได้โดยไม่ต้องถึงก้นกระทะ
ใส่ไข่และน้ำตาล 415g (14.6 ออนซ์) ลงในชาม แล้วตีโดยใช้เครื่องผสมประมาณ 3 นาทีจยเข้ากันดีและเป็นฟอง จากนั้นใส่น้ำผึ้งและผงฟูลงไปผัด จากนั้น ผสมแป้ง 375 กรัม (13.2 ออนซ์)
เทน้ำลงในกระทะจนสูง 3-4 ซม. (1 1/2นิ้ว) จากนั้นวางชามลงในกระทะ
ใส่ bain-marie ลงบนเตาแล้วต้มจนเดือด ปิดฝาและปรุงอาหารเป็นเวลา 20-25 นาทีเหนือน้ำเดือดปุด ๆ คนเป็นครั้งคราว นำชามที่มีส่วนผสมออกจากกระทะ จากนั้นใส่แป้งที่เหลือลงในชามแล้วคนให้เข้ากัน
โรยพื้นผิวการทำงานของเพื่อนๆด้วยแป้ง หมุนชามที่มีแป้งลงบนพื้นผิวเรียบ จากนั้นนวดจนได้แป้งที่เป็นเนื้อเดียวกัน
ปั้นแป้งให้เป็นม้วน ต่อไป แบ่งเป็น 8 หรือ 12 ชิ้นขนาดเท่ากัน โดย 8 ชิ้นจะทำเค้กขนาด 30 ซม. (12 นิ้ว) ในขณะที่ 12 ชิ้นจะทำเค้กขนาด 23 ซม. (9 นิ้ว) สุดท้ายม้วนแต่ละชิ้นเป็นลูกบอล
ตั้งเตาอบให้ร้อนที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส (400 องศาฟาเรนไฮต์)
ปัดฝุ่นพื้นผิวการทำงานของเพื่อนๆอย่างไม่เห็นแก่ตัวด้วยแป้ง
นวดแป้งบนพื้นผิวงานที่ปัดฝุ่นแล้วปั้นเป็นลูกอีกครั้งแล้วเคลือบด้วยแป้งแต่ละหลุม คลุมด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ
วางลูกบอลบนกระดาษรองอบ แล้วม้วนเป็นวงกลมขนาดที่ต้องการ (30 ซม./12” หรือ 23 ซม./9”) ม้วนให้มากกว่าขนาดที่ต้องการ 10-20 มม. (1/2นิ้ว) ถ้าเหนียวก็โรยด้วยแป้ง
วางแม่แบบ (หรือวงแหวนสำหรับเค้ก) ลงบนชิ้นแป้งที่รีดแล้วและใช้มีดลากรอบๆ แป้ง (อย่าหั่นกระดาษรองอบ!) จากนั้นแยกส่วนที่หั่นออกจากวงกลมของแป้ง แต่อย่านำออกจากถาด กระดาษรองอบ จิ้มแป้งด้วยส้อม
วางกระดาษรองอบ กับชิ้นส่วนของแป้งที่รีดแล้วลงในเตาอบอุ่นและอบประมาณ 5-8 นาที นำออกจากเตา ปล่อยให้เย็น แล้วลอกกระดาษรองอบ
ทำซ้ำขั้นตอนที่ 10, 11 และ 12 จนกว่าเพื่อนๆจะอบชั้นเค้กทั้งหมด
วางชั้นที่อบไว้บนอีกด้านหนึ่งแล้วพักไว้ ปล่อยให้เย็นสนิท จากนั้นบดส่วนที่หั่นแต่งในเครื่องเตรียมอาหารหรือบดด้วยมือ
ในชามที่แยกจากกัน ผสมครีมเปรี้ยวและน้ำตาล คนส่วนผสมประมาณ 2-3 นาทีจนน้ำตาลละลาย อย่าปล่อยให้ครีมพัฒนาความคงตัวของเนยโดยการตีนานเกินไป
วางเค้กชิ้นแรกลงบนจานแล้วราดด้วยครีม 4-8 ช้อนโต๊ะ (ขึ้นอยู่กับขนาดของเค้ก) ค่อยๆ เกลี่ยให้ทั่วจนทั่ว
วางเค้กชิ้นต่อไปบนชั้นครีมโดยไม่ต้องกดลงไป
ทำซ้ำจนครบทุกชั้นและราดด้วยไอซิ่งครีมเปรี้ยว
ปาดไอซิ่งที่ด้านข้างของเค้ก
ในการตกแต่ง โรยเค้กให้ทั่วทุกด้านด้วยส่วนตกแต่งเค้กที่บดแล้ว (หรือบด)
ก่อนเสิร์ฟ ทิ้งเค้กไว้ 2 ชั่วโมงที่อุณหภูมิห้อง แล้วแช่เย็นอย่างน้อย 5 ชั่วโมง แต่ควรข้ามคืนดีที่สุด ทานให้อร่อยนะคะ



baanbakery banner

ขอขอบคุณข้อมูล – https://www.tasteatlas.com/medovik/recipe

ประวัติเค้กเมโดวิค

เมื่อพิจารณาถึงรสชาติและประโยชน์ต่อสุขภาพของน้ำผึ้ง จึงไม่น่าแปลกใจที่น้ำผึ้งมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในอารยธรรมโบราณ’ อาหารต่างๆ เช่น อียิปต์ กรีซ และโรม อย่างไรก็ตาม เค้กน้ำผึ้งชิ้นแรกทำโดยเชฟชาวเยอรมันในศตวรรษที่ 12 ร้านขนมเริ่มอบเค้กน้ำผึ้งในชั่วพริบตา บางครั้งก็เพิ่มช็อกโกแลต ถั่ว หรือแม้แต่ผลไม้แห้งลงไปด้วย แต่ที่มาของเค้กน้ำผึ้งรัสเซียที่เรารู้จักในปัจจุบันนี้ มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ตามตำนานเล่าขานกันว่าสร้างขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1820 ในครัวของพระราชวังอิมพีเรียล กล่าวคือจักรพรรดินี Elizaveta Alekseevna ไม่สามารถทนต่อรสชาติของน้ำผึ้งได้ดังนั้นจึงห้ามใช้ในห้องครัวโดยเด็ดขาด เมื่อมีการจ้างพ่อครัวขนมคนใหม่โดยที่จักรพรรดินีไม่ทราบ เกลียดน้ำผึ้งเขาเตรียมขนมน้ำผึ้งสำหรับราชวงศ์เพื่อลิ้มรส จักรพรรดินีรู้สึกประทับใจกับเค้กที่บางและชื้นและรสชาติที่ละเอียดอ่อนและไส้ที่ละลายอย่างนุ่มนวล เมื่อถามถึงส่วนผสม เชฟยอมรับว่าเขาใช้น้ำผึ้งเป็นฐานในการทำขนม Elizaveta Alekseevna รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับความสามารถและความกล้าหาญของเขาที่เธอตัดสินใจให้รางวัลแก่เขา ดังนั้น medovik จึงกลายเป็นขนมโปรดของพระราชวังของรัสเซีย ปัจจุบันเค้กมีหลากหลายรูปแบบและดัดแปลง แต่ยังคงเป็นหนึ่งในขนมรัสเซียที่โด่งดังที่สุด

วัตถุดิบเค้กเมโดวิค
eggs
ไข่ (Eggs) เป็นหนึ่งในอาหารโปรตีนสูง ใน 1 ฟองจะมีโปรตีน 6 กรัม จึงถือเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ซึ่งผู้ที่ต้องการมีกล้ามเนื้อทั้งหลายต่างเลือกรับประทาน เพราะเชื่อว่าจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ดี เนื่องจากโปรตีนมีส่วนช่วยในการเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย เนื่องจากในไข่มีสารโคลีน (Choline) มากถึง 20% เป็นปริมาณที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน ที่เมื่อไปรวมกับกรดไขมันฟอสโฟลิพิด (Phospholipid) จะเกิดเป็นสารเลซิทิน (Lecithin) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของสมอง จึงเชื่อกันว่าไข่อาจช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมอง และช่วยให้ระบบประสาทแข็งแรงได้
sugar
น้ำตาล (Sugar) คือ สารประกอบคาร์โบไฮเดรตประเภทโมโนแซ็กคาไรด์ (monosaccharide) และไดแซ็กคาไรด์ (disaccharide) ซึ่งมีรสหวาน โดยทั่วไปจะได้มากจากอ้อย มะพร้าว แต่โดยทั่วไปแล้วจะเรียกอาหารที่มีรสหวานว่าน้ำตาลแทบทั้งสิ้น เช่น ทำมาจากตาลจะเรียกว่าตาลโตนด ทำมาจากมะพร้าวจะเรียกว่าน้ำตาลมะพร้าว ทำมาจากงวงจากจะเรียกว่าน้ำตาลจาก ทำมาจากงบจะเรียกว่าน้ำตาลงบ ทำมาจากอ้อยแต่ยังไม่ได้ทำเป็นน้ำตาลทรายจะเรียกว่าน้ำตาลทรายดิบ ถ้านำมาทำเป็นเม็ดจะเรียกว่าน้ำตาลทราย หรือถ้านำมาทำเป็นก้อนแข็งคล้ายกรวดจะเรียกว่าน้ำตาลกรวด ฯลฯ
honey
น้ำผึ้ง (Honey) เป็นอาหารหวานที่ผึ้งผลิตโดยใช้น้ำหวานจากดอกไม้ พืชพันธุ์ชนิดต่างๆ น้ำผึ้งมักหมายถึงชนิดที่ผลิตโดยผึ้งน้ำหวานในสายพันธุ์ Apis เนื่องจาก เป็นผึ้งเก็บน้ำหวานให้คุณภาพสูง และสามารถเลี้ยงระบบกล่องได้ น้ำผึ้งมีประวัติการบริโภคของมนุษย์มายาวนาน และถูกใช้เป็นสารให้ความหวานในอาหารและเครื่องดื่มหลายชนิด
baking powder
เบคกิ้งพาวเดอร์ หรือ ผงฟู เป็นส่วนผสมแห้งของสารเคมีคือ เบคกิ้งโซดา+กรดอ่อนๆ + แป้ง เป็นตัวที่ทำให้ขนมของเรานั้นฟูขึ้นเช่นกัน เราจะเห็นว่าในส่วนผสมของผงฟูนั้นมีกรดอ่อนๆ ผสมอยู่แล้วเมื่อเติมน้ำลงไป กรดอ่อนและด่างอ่อนๆ จากเบคกิ้งโซดาก็จะทำปฏิกริยาเกิดฟองแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นมา ด้วยความที่มีกรดเป็นส่วนผสมอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องอาศัยกรดจากวัตถุดิบอื่นๆ ของอาหาร ขนมปังที่ทำมาจากส่วนผสมของสารเคมีแบบแห้งว่า Quick bread ยกตัวอย่างเช่น แพนเค้ก มัฟฟิน หรือบิสกิต เป็นต้น

 

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF