เค้กเซนต์ออเร่ St. Honoré Cake
เค้กเซนต์ออเร่ St. Honoré Cake ไม่มีอะไรที่แสนสุขใจเกินไปกว่าการได้ทานเมนูเด็ดสุดอร่อย จากสูตรเด็ดและเราทำเอง แอดชูครีมขอนำเสนอ เค้กเซนต์ออเร่เค้กสไตล์ฝรั่งเศส ซึ่งแอดชูครีมลองทำมาแล้วอร่อยมากๆเลยค่ะ อยากแชร์สูตรเลย สูตรดั้งเดิมสำหรับเค้กเซนต์ออเร่ ขนมปังบริออชรูปวงแหวนสอดไส้ครีมชิบุสท์ แสนอร่อย จัดเรียงแล้วน่าทานสุดๆ เพมาะสำหรับปาร์ตี้คนไฮโซอย่างเราๆลองนึกดู แค่นึกถึงเมนูนี้ น้ำลายก็ไหลแล้ว แค่คิดก็อยากกินแล้ว มาทำเค้กเซนต์ออเร่เจ้าค่ะ อร่อยเด็ดเมนูระดับมิชิลินสตาร์ มาค่ะดาวน์โหลดสูตร มือขวาควงตะหลิว มือซ้ายจับกระทะ สาวเท้าก้าวเข้าครัวไปกับเมนูเค้กเซนต์ออเร่กันเลยค่ะ
สูตรเค้กเซนต์ออเร่
– สำหรับฐานเค้ก
แป้งเอนกประสงค์ 125 กรัม
ไข่แดง 1 ฟอง
เนยจืด 50 กรัม
น้ำตาลทราย 15 กรัม
น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือหนึ่งหยิบมือ
– CHOUX
น้ำ 250 มล.
เนย 50 กรัม
น้ำตาลทราย 15 กรัม
แป้งสาลี 125 กรัม
ไข่ 4 ฟอง
– ซอสคาราเมล
น้ำตาลทราย 250 กรัม
น้ำ 100 มล
– ชิบูสครีม
เจลาติน 15 กรัม
น้ำเย็น 5 ช้อนโต๊ะ
นม 1 ลิตร
วานิลลา 1 ฝัก
ไข่แดง 6 ฟอง
น้ำตาลทราย 200 กรัม
แป้งข้าวโพด 75 กรัม
ไข่ขาว 4 ฟอง
น้ำตาลไอซิ่ง
ไข่ 1 ฟอง ตีสำหรับเคลือบ
วิธีทำเค้กเซนต์ออเร่
เริ่มต้นด้วยการเตรียมฐานสำหรับเค้กโดยผสมส่วนผสมทั้งหมดลงในแป้งที่เนียน เก็บแป้งไว้ในตู้เย็นและทำชูเพสต่อไป
ในกระทะ ตั้งน้ำให้ร้อน เนย น้ำตาลทราย และเกลือเล็กน้อย จนเดือด จากนั้นใส่แป้งลงไป คนให้เข้ากัน แล้วยกลงจากเตา
เมื่อแป้งปั้นเป็นก้อนกลม ทิ้งไว้ให้เย็นและใส่ไข่ที่ตีจนเนียนจนเนียนแล้วทีละสี่ฟองด้วยเครื่องตี
บนถาดอบที่ทาเนย วางแป้งที่รีดแล้วสำหรับฐาน ซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางวงกลม 20 ซม. และหนา 3 มม. จิ้มฐานแป้งด้วยส้อมและทาขอบด้วยไข่ที่ตีจนเนียนจนเนียน
ย้าย ชูว์เพสต์ หนึ่งในสามลงในถุงบีบด้วยปลายเรียบเท่าความกว้างของนิ้ว แล้วบีบขอบจากขอบฐาน 3 มม. ทาขอบด้วยไข่ที่ตีจนเนียนจนเนียน
วาง choux ที่เหลือโดยใช้ถุงบีบและท่อถาดทาเนย 20 ชูว์บอล ที่มีขนาดเท่ากับวอลนัท อบฐานและ ชูว์บอล ในเตาอบอุ่นที่ 200 °C ประมาณ 25 นาที เสร็จแล้วทิ้งให้เย็นสนิท
สำหรับซอสคาราเมล ให้ต้มน้ำตาลและน้ำจนเดือดที่อุณหภูมิ 145 องศาเซลเซียส เมื่อยังร้อนอยู่ จุ่ม ชูว์บอล ลงในคาราเมล ให้ติดด้านคาราเมลลงบนขอบเพื่อให้แน่ใจว่าทั้งสองสัมผัสกัน
สุดท้ายคือไส้ครีม Chiboust ในชามแยก เจลาตินนิ่มในน้ำเย็น 5 ช้อนโต๊ะ ตีไข่แดงกับน้ำตาลทรายจนขาวและข้น แล้วใส่แป้งข้าวโพด
ต้มนมพร้อมกับฝักวานิลลา นำฝักออกแล้วเทนมลงบนส่วนผสมของไข่แดง นำทุกอย่างใส่กระทะ นำไปต้มในขณะที่คนตลอดเวลา
ผสมเจลาตินที่นิ่มจนละลายหมด นำครีมไปต้มอีกครั้งแล้วเทไข่ขาวที่เพื่อนๆตีจนแข็งไว้ก่อนหน้านี้ลงไป ตะล่อมแป้งขาวและครีมด้วยช้อนโลหะ ทิ้งไว้ให้เย็นจนเซ็ตตัว
เติมครีมตรงกลางเค้ก โรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง แล้วย่างจนเหลืองทอง จนกว่าจะพร้อมเสิร์ฟให้เก็บไว้ในที่เย็น ทานให้อร่อยนะคะ
VIDEO
ขอขอบคุณข้อมูล – https://www.tasteatlas.com/st-honore-cake/recipe
ประวัติเค้กเซนต์ออเร่
เซนต์ออเนอร์ที่ประดิษฐ์ขึ้นในปารีสในศตวรรษที่ 19 เค้กชิ้นแรกเป็นขนมปังบริออชรูปวงแหวนสอดไส้ครีมชิบุสท์ ภายหลังที่หนึ่งในคนทำขนมปังของ Chiboust ได้มอบมงกุฎของ profiteroles ที่ไม่มีใครเทียบได้ให้กับของหวาน ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โบสถ์ St. Honoré เค้กใช้รูปแบบปัจจุบันและแม้ว่าร้านขนม Chiboust ที่ St. Honoré ถนนไม่มีแล้ว เหลือแต่ขนมที่เหมาะกับนักบุญ
วัตถุดิบเค้กเซนต์ออเร่
butter
เนย (Butter) เป็นไขมันสัตว์ที่ถูกนำไปผ่านกระบวนการแยกออกมาจากน้ำนมหรือครีม ส่วนใหญ่จะใช้น้ำนมจากสัตว์ เช่น วัว ควาย แพะ หรือแกะ กระบวนการผลิตเนย เริ่มจากการนำน้ำนมไปเข้าเครื่องจักรเพื่อปั่นหรือเหวี่ยงด้วยความเร็วสูง เมื่อเหวี่ยงจนได้ที่จะได้วัตถุดิบออกมา 2 ชนิด คือ บัตเตอร์มิลค์ เป็นส่วนของน้ำสีขาวขุ่น และเนย เป็นส่วนของก้อนไขมันสีเหลืองๆ ซึ่งก็คือเนยแท้ หรือที่เรียกกันติดปากว่า ‘เนยสด’ นั่นเอง
sugar
น้ำตาล (Sugar) คือ สารประกอบคาร์โบไฮเดรตประเภทโมโนแซ็กคาไรด์ (monosaccharide) และไดแซ็กคาไรด์ (disaccharide) ซึ่งมีรสหวาน โดยทั่วไปจะได้มากจากอ้อย มะพร้าว แต่โดยทั่วไปแล้วจะเรียกอาหารที่มีรสหวานว่าน้ำตาลแทบทั้งสิ้น เช่น ทำมาจากตาลจะเรียกว่าตาลโตนด ทำมาจากมะพร้าวจะเรียกว่าน้ำตาลมะพร้าว ทำมาจากงวงจากจะเรียกว่าน้ำตาลจาก ทำมาจากงบจะเรียกว่าน้ำตาลงบ ทำมาจากอ้อยแต่ยังไม่ได้ทำเป็นน้ำตาลทรายจะเรียกว่าน้ำตาลทรายดิบ ถ้านำมาทำเป็นเม็ดจะเรียกว่าน้ำตาลทราย หรือถ้านำมาทำเป็นก้อนแข็งคล้ายกรวดจะเรียกว่าน้ำตาลกรวด ฯลฯ
salt
เกลือ (Salt) หรือเกลือโซเดียมนั้นมีแร่ธาตุหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมก็อาจส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย ดังนี้ ป้องกันภาวะความดันโลหิตต่ำ,ป้องกันภาวะขาดน้ำ และป้องกันการขาดไอโอดีน แต่ต้องรับประทานในขนาดที่เหมาะสมต่อวันมิเช่นนั้นจะเดิดโทษต่อร่างกาย มากกว่าได้ประโยชน์
eggs
ไข่ (Eggs) เป็นหนึ่งในอาหารโปรตีนสูง ใน 1 ฟองจะมีโปรตีน 6 กรัม จึงถือเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ซึ่งผู้ที่ต้องการมีกล้ามเนื้อทั้งหลายต่างเลือกรับประทาน เพราะเชื่อว่าจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ดี เนื่องจากโปรตีนมีส่วนช่วยในการเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย เนื่องจากในไข่มีสารโคลีน (Choline) มากถึง 20% เป็นปริมาณที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน ที่เมื่อไปรวมกับกรดไขมันฟอสโฟลิพิด (Phospholipid) จะเกิดเป็นสารเลซิทิน (Lecithin) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของสมอง จึงเชื่อกันว่าไข่อาจช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมอง และช่วยให้ระบบประสาทแข็งแรงได้
gelatin
เจลาติน (Gelatin) คือผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากคอลลาเจน ส่วนใหญ่มักทำมาจากโปรตีนเกือบทั้งหมด และมีกรดอะมิโนพิเศษที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ผลิตภัณฑ์โปรตีนที่ได้มาจากคอลลาเจน เจลาตินมีประโยชน์ต่อสุขภาพที่สำคัญเพราะมีกรดอะมิโนที่พิเศษ เจลาตินมีบทบาทสำคัญสำหรับข้อต่อและการทำงานของสมอง และอาจทำให้ผิวและผมดีขึ้น
milk
นม หรือ น้ำนม (Milk) คือ ของเหลวสีขาวที่มีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็กหรือสัตว์เกิดใหม่ ที่ผลิตออกมาจากเต้านมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อาทิเช่น มนุษย์ วัว แพะ แกะ ควาย ม้า ลา อูฐ จามรี เรีนเดียร์ ลามา แมวน้ำ และยังรวมไปถึงเครื่องดื่มที่ใช้แทนนมด้วย เช่น นมถั่วเหลือง น้ำนมข้าว นมข้าวโพด นมแอลมอนด์เป็นต้น
vanilla
วานิลลา (Vanilla) เป็นกลิ่นที่ได้จากฝักของกล้วยไม้สกุล Vanilla ต้นกำเนิดจากเม็กซิโก ชื่อวานิลลามาจากคำในภาษาสเปนว่า “ไบย์นียา” (vainilla) ซึ่งแปลว่า ฝักเล็ก ๆ วานิลลามักถูกนำมาใช้แต่งกลิ่นในการทำอาหารประเภทของหวานและไอศกรีม
corn
ข้าวโพด (Corn) ธัญพืชรสหวานอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบี แร่ธาตุ เส้นใยอาหาร และเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ เชื่อกันว่าการรับประทานข้าวโพดมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ เช่น ช่วยบำรุงสายตา ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น รวมถึงป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจได้ เป็นต้น
Post Views:
274